วันเสาร์ที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๑
วันพระ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๕
สุขสันต์วันสงกรานต์ .. สวัสดีปีใหม่
???
คนเราจะมีช่องที่ติดต่อกับโลกอยู่หกช่อง
มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
เวลากระทบกับโลกตามช่องทางต่างๆ
ถ้ากระทบไปแล้วขาดทุน..ก็เลี่ยงเสีย
ไม่ใช่ดันทุรังกระทบไปเรื่อยๆ
ตรงนี้เรียกว่า มี”ความสำรวมอินทรีย์”
ถ้าเลี่ยงไม่ได้..ให้เจริญสติให้เยอะๆ
กระทบแล้วมีกิเลสเกิดขึ้นในใจ
ให้มารู้ข้างในใจนี้
เรียกว่า “ป้องกันทั้งภายนอกและภายใน”
กำแพงเมืองนั้นป้องกันเฉพาะศัตรูภายนอกได้
แต่ถ้ามีไส้ศึกข้างใน..ก็ลำบาก!
ดังนั้น พระพุทธเจ้าท่านจึงให้ตั้งกำแพง
ก็คือ..มียามรักษาการณ์ตามประตูต่างๆ
ตากระทบรูป ก็มีสติเป็นยามรักษาการณ์
สติจะรับรู้อยู่เสมอว่า..กระทบอะไร แล้วใจเป็นอย่างไร?
ใจกระทบกับเรื่องราว แล้วเกิดอะไรขึ้น..รู้ที่ใจด้วย!
หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นกระทบรส ให้มีสติ
แล้วเลือกหน่อย ไม่ไปยุ่งกับอโคจร
ที่ไหนยั่วกิเลสมากก็เลี่ยง หรือปิดช่องทางเสีย
แล้วสุดท้ายก็คือ..สำรวจไส้ศึก!
จิตใจเรานี้ มีความพอใจ ไม่พอใจอะไร?
มีกิเลสอะไร?..ให้รู้ทันที่ในใจเราด้วย
คอยระวังป้องกันทั้งภายนอกและภายใน
อย่างนี้เรียกว่า..เป็นผู้ที่ไม่ประมาท
อาศัยเวลาที่ผ่านไปเตือนใจตนเอง
ให้ไม่ประมาท
ธรรมบรรยายโดย
พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล
เรียบเรียงจากไฟล์เสียง ธรรมะรับกาลเวลา
๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๙ ณ บ้านจิตสบาย
ลิงค์ไฟล์เสียง https://bit.ly/2l9kKIw
นาทีที่ 32.44-34.27