#นิมฺมโลตอบโจทย์ ๑๔๐
??
#ถาม : อยากจะมีพระสงฆ์เป็นสรณะ แต่ติดตรงสิ่งที่พระสงฆ์ในปัจจุบันนี้กำลังเป็น จึงยากนักที่จะทำใจให้นับถือเป็นสรณะได้ เราควรวางใจอย่างไรคะ?
#ตอบ : คำว่า “สงฆ์” มีหลายความหมายนะ
ถ้าว่าโดยศัพท์ แปลว่า หมู่, ชุมนุม
ถ้าว่าโดยความหมายจะมี ๒ ความหมาย
“สงฆ์” ความหมายแรก หมายถึง หมู่สาวกของพระพุทธเจ้า เรียกเต็มว่า “สาวกสงฆ์” ตามที่ปรากฏในคำสวดสังฆคุณว่า “สุปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ…” เป็นต้น ซึ่งมีคำแปลว่า สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ผู้ปฏิบัติดีแล้ว, ปฏิบัติตรงแล้ว, ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว, ปฏิบัติสมควรแล้ว ประกอบด้วยคู่บุคคล ๔ คู่ นับเรียงเป็นรายบุคคลก็มี ๘ ได้แก่
– ท่านผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติมรรค และท่านผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล คู่หนึ่ง
– ท่านผู้ตั้งอยู่ในสกทาคามิมรรค และท่านผู้ตั้งอยู่ในสกทาคามิผล คู่หนึ่ง
– ท่านผู้ตั้งอยู่ในอนาคามิมรรค และท่านผู้ตั้งอยู่ในอนาคามิผล คู่หนึ่ง
– ท่านผู้ตั้งอยู่ในอรหัตตมรรค และท่านผู้ตั้งอยู่ในอรหัตตผล คู่หนึ่ง
รวมเรียกบุคคล ๔ คู่นี้ว่า “อริยบุคคล”
คำว่า”สาวกสงฆ์”นี้ ก็จึงเรียกได้อีกอย่างว่า”อริยสงฆ์”
“สงฆ์” ความหมายที่ ๒ หมายถึง หมู่ภิกษุตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไป ซึ่งสามารถทำสังฆกรรมได้ตามที่กำหนดไว้ในพระวินัย
(ถ้าหมู่ภิกษุ ๒-๓ รูป เรียกว่า “คณะ” ถ้าภิกษุรูปเดียว เรียกว่า “บุคคล”)
พระสงฆ์ที่โยมตะขิดตะขวงใจที่จะนับถือเป็นสรณะนั้นน่าจะหมายถึง “สงฆ์” ในความหมายที่ ๒ ซึ่งประกอบด้วยภิกษุที่ฝึกฝนปฏิบัติมาดีแล้ว, ที่กำลังฝึกฝนปฏิบัติ, ที่เคยฝึกฝนปฏิบัติเหมือนกัน แต่ยังฝึกไม่ได้ที่ และบัดนี้ย่อหย่อน และสุดท้ายคือพวกที่ไม่ยอมฝึกฝนปฎิบัติ ในบรรดาภิกษุเหล่านี้ ผู้ที่เป็นอริยบุคคลเท่านั้นจึงจะเป็น “สงฆ์” ที่เป็นสรณะของชาวพุทธ
ที่สำคัญคือ “สาวกสงฆ์” ที่เป็นสรณะของชาวพุทธนั้น ไม่จำกัดอยู่แต่ในหมู่ภิกษุเท่านั้น ที่จริง..ไม่ว่าพุทธบริษัทท่านใดก็ตามที่ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าจนกระทั่งบรรลุมรรคผล เป็นพระอริยบุคคลแล้ว พุทธบริษัทท่านนั้นก็นับว่าเป็น”สาวกสงฆ์”ด้วย แม้ว่าท่านนั้นจะยังเป็นอุบาสกหรืออุบาสิกาอยู่ก็ตาม
ฉะนั้น แทนที่จะให้ใจไปติดอยู่กับความรังเกียจภิกษุผู้ไม่รักดี ก็ใช้โอกาสนี้มาฝึกฝนปฏิบัติพัฒนาตนตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ มาร่วมรวมเป็น “สาวกสงฆ์” กันจะไม่ดีกว่าหรือ?
๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๑