การเจริญสติ คือ…ใช้จิตไปรู้ในสิ่งที่ปรากฏ

วรรคทอง…วรรคธรรม #๒๐

การเจริญสติ คือ…ใช้จิตไปรู้ในสิ่งที่ปรากฏ
ถ้าเราเรียนด้วยวิธีว่า..ถามว่า…นิพพานเป็นยังไง?..
พระอรหันต์เป็นยังไง?..
พระสกิทาคาพระอนาคาท่านเป็นยังไง?.. อย่างนี้นะ!
โดยที่เราไม่ได้สัมผัส ไม่ได้รู้สภาวะนั้น ไม่เคยเห็นเลยเนี่ย..
ถามเสร็จแล้วเราก็ไปนึกๆ เอา
แล้วก็ไม่หายสงสัยสักที..เพราะไม่เคยเห็น !
เหมือนถามว่า…
ภรรยาของประธานาธิบดีประเทศ”วานูอาตู”หน้าตาเป็นยังไง?
ลองนึกซิ..นึกออกมั้ย?
นึกไม่ออก..เพราะอะไร?
เพราะไม่เคยเห็น !!
เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราจะเรียนต่อไปคือ…
เรียนในสิ่งที่ปรากฏ.. เฉพาะในสิ่งที่ปรากฏกับใจ
ถ้ายังไม่ปรากฏ ไม่ต้องเรียนก็ได้..ยังไม่ต้องเรียน !
ถ้าตอนนี้ทุกคนโกรธ..ก็ให้รู้ว่าโกรธ
แต่ถ้ายังไม่โกรธล่ะ..ก็ยังไม่ต้องดูสิ .. เข้าใจมั้ย?
ตอนนี้มีอารมณ์ดี มีความผ่องใส.. ก็รู้ทันความผ่องใส
อยากฟังนิทานต่อ.. ก็ให้รู้ความอยาก .. เข้าใจมั้ย?
ให้รู้ความอยากที่เกิดขึ้น ให้ความผ่องใสชื่นบานที่เกิดขึ้นในใจ
ไม่ใช่ว่า “เอาล่ะ…ต่อไปฉันจะดูความโกรธ” จ้องดู..
แล้วมาบ่นกับตัวเองว่า “ความโกรธ..เมื่อไหร่จะมาซักที”
..หงุดหงิดแล้วก็ยังไม่รู้เลย !!
สรุปแล้วก็คือว่า อย่ามัวไปกังวลในสิ่งที่ยังไม่ปรากฏ
ให้รู้สิ่งที่ปรากฏ !
เพราะสิ่งที่ปรากฏเท่านั้นจึงแสดงความจริง
สิ่งที่ปรากฏที่จะแสดงความจริง ต้องรู้ให้ตรงที่เป็นสภาวะที่เป็นสภาวะแท้ๆ
ไม่เข้าไปในเรื่องราว
สภาวะแท้ๆ ก็คือว่า ราคะ โทสะ โมหะ ฟุ้งซ่าน หดหู่ นี่เป็นสภาวะแท้ๆ
ส่วนความเข้าใจ..ไม่ใช่ไปมัวแต่คิดอย่างเดียว
ความเข้าใจคือความเข้าใจ ความคิดก็คือความคิด
ความเข้าใจเนี่ยมันมีเหตุมาจากเห็นมากๆ
เห็นบ่อยๆ จนมันเข้าใจ
แต่จะเข้าใจเมื่อไหร่เนี่ย..บอกไม่ได้
จุดที่จะปิ๊งขึ้นมาเข้าใจนี่นะ.. เมื่อไหร่ไม่รู้
ที่เราทำได้จริงๆ ก็คือ มีสติรู้สภาวะที่ปรากฏ
ต้องเป็นสภาวะที่ปรากฏเท่านั้น
ที่ยังไม่ปรากฏหรือที่ปรากฏไปแล้ว ใช้ไม่ได้
ที่ปรากฎไปแล้วก็คืออดีต ที่ยังไม่ปรากฏคืออนาคต จะมาหรือปล่าวก็ไม่รู้
ฉะนั้น ดูที่ปรากฏจริงๆ ขณะนี้เวลานี้เท่านั้นเอง
จึงจะเป็น”ของจริง”ที่สติจะไปรู้ได้

ธรรมบรรยายโดย พระกฤช นิมฺมโล
รู้สิ่งที่ปรากฏ
บรรยาย ณ บ้านจิตสบาย
วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๘