แล้วเราจะทำอะไรได้ล่ะ?

วรรคทอง…วรรคธรรม #๒๓

“แล้วเราจะทำอะไรได้ล่ะ?”
“ปุพเพกตปุญญตา”.. คือมีบุญที่ทำแล้วในกาลก่อน ..
อ้าว! .. กาลก่อนก็คืออดีต….แล้วเราจะทำอะไรได้ล่ะ?
คนมีบุญที่ทำแล้วในกาลก่อนนี่นะ ..ทำให้เกิดมาดี มีอวัยวะครบสมบูรณ์
เกิดในตระกูลสูง..ตระกูลคนรวย ..เกิดบนกองเงินกองทอง
บางคนเกิดมาสวยเลย ไม่ต้องไปเสริมเติมแต่งอะไรเลย
บางคนเกิดมาหล่อเลย…เพราะทำบุญมาดี
อันนั้นก็เป็นบทพิสูจน์ว่า..บุญเก่ามีจริง

ถ้าบุญเก่าไม่มีจริง..คนทั้งหลายที่เกิดมาควรจะสวยเหมือนกัน
ควรจะหล่อเหมือนกัน แต่เพราะเราทำบุญมาแตกต่างกัน
รวมทั้งทำบาปมาแตกต่างกันด้วย
มันจึงทำให้แต่ละคนมีหน้าตาอย่างนั้นบ้าง..หน้าตาอย่างนี้บ้าง
ผิวอย่างนั้นบ้าง ผิวอย่างนี้บ้าง
รวยบ้าง เลิศบ้าง ยากจนบ้าง
ฉลาดบ้าง โง่บ้าง อะไรอย่างนี้นะ เพราะบุญเก่าไม่เท่ากัน
แล้วมันมีประโยชน์อะไร?..

ธรรมะข้อนี้มีประโยชน์อะไร?
มีประโยชน์ตรงที่ว่า…
เพราะปัจจุบันจะต้องเป็นอดีตของอนาคต อยู่ทุกๆ ขณะ นึกออกมั้ย?
อดีตเราทำบุญมา..จึงทำให้ปัจจุบันเรามีผลเป็นอย่างนี้
แล้วปัจจุบันมันเที่ยงมั้ย? ปัจจุบันจะต้องดับไปอยู่เสมอ
แล้วเป็นผลไปสู่อนาคตอยู่เรื่อยๆ
เพราะฉะนั้น..ปัจจุบันนี้แหละทำบุญให้มากๆ
เพื่อจะไปเป็นผลสู่อนาคตที่ดีๆ
ในอนาคต..เราจะได้มีอดีตที่ทำบุญมาไว้ดี
ธรรมข้อ “ปุพเพกตปุญญตา” นี้..
ไม่ใช่ให้ยอมจำนน ..หรือยอมแพ้ว่า
‘อ้อ..ที่ชีวิตปัจจุบันฉันมาได้แค่นี้
เพราะบุญเก่ามาแค่นี้’..แล้วก็ยอม!!
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้เรายอมแพ้แบบนั้น เข้าใจมั้ย?
“ปุพเพกตปุญญตา”..สอนมาเพื่อให้ทำปัจจุบันนี้แหละ
เพื่อให้เป็น”ปุพเพกตปุญญตา”สำหรับอนาคต
เพราะเรารู้แล้วว่า..ในอดีตเราก็เคยทำอะไรมา..ทั้งดีและเลว
บุญที่เราทำมาก็ส่งผลให้เราเป็นอย่างนี้ แล้วก็มันก็มีบาปด้วย
เราจึงทุกข์บ้าง สุขบ้าง
เราเชื่อในกรรมและการให้ผลของกรรม
แล้วระมัดระวังไม่ทำบาปอีก
เชื่อในผลของบุญ รู้ว่าทำบุญแล้วมีผลดีจริง เราก็ทำบุญ..เพื่อให้เป็น”ปุพเพกตปุญญตา”สำหรับอนาคต
ไม่ใช่หวังลมๆ แล้งๆ ว่า
‘อยากจะบรรลุผลเป็นพระอริยบุคคล..แบบฟังธรรมแล้วปิ๊งเลย’ !!..
มันไม่ได้ทำ “ปุพเพกตปุญญตา” มาแต่ไหนแต่ไร
มันจะปิ๊งได้ยังไง?.. เข้าใจมั้ย ?
มันต้องมีเหตุ จึงจะมีผล ถ้าไม่มีเหตุ ก็ไม่มีผล
เพราะฉะนั้น จึงต้องทำเหตุ
ถ้าต้องการพ้นทุกข์..ต้องทำเหตุ
เหตุของความพ้นทุกข์ คือ
เจริญสติรู้กายรู้ใจตามความเป็นจริง
ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง

ธรรมบรรยายโดย พระกฤช นิมฺมโล
เรียบเรียงจากธรรมบรรยายในหลักสูตร “งานยุ่งทั้งวัน จะปฏิบัติธรรมอย่างไร”
ณ สวนธรรมศรีปทุม
วันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๖