วันเสาร์ที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๕ วันพระ แรม ๘ ค่ำ เดือนเก้า(๙) ปีขาล พระกฤช #ฝากคิด #ฝากคำ #กรรมเพื่อความพ้นทุกข์ #ขันธ์ห้านี้เป็นทุกข์ “กรรมไม่ดำ-ไม่ขาว” มีผลคือ พ้นจากวัฏฏสังสาร คือ พ้นทุกข์ กรรมไม่ดำ-ไม่ขาว ก็คือ ทำกรรมฐานก่อน ต้องทำกรรมฐานก่อน! “กรรม” คือ เจตนา มีเจตนาเมื่อไหร่ ก็เรียกว่า “มีการทำกรรม” แรกๆ จะต้องมีเจตนาในการทำกรรม ทั้งๆ ที่ว่า.. ต้องการจะพ้นจากวัฏฏะสงสาร เนี่ยนะ! ก็มีการทำกรรม คือ “ทำกรรมฐาน” คือ “สมถกรรมฐาน” และ “วิปัสสนากรรมฐาน” ทำ “สมถกรรมฐาน” ก็คือ ทำกรรม.. ที่ทำให้จิตสงบ ทำ “วิปัสสนากรรมฐาน” คือ ทำกรรม.. ให้จิตฉลาด มีปัญญา ‘เห็น’ ‘รู้’ เข้าใจความเป็นจริงของโลก และพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ก็มี “ปัญญา” สำคัญๆ อยู่ ๔ ระดับ ระดับแรก.. ก็คือ เห็นความจริงว่า “กายนี้-ใจนี้ ไม่ใช่เรา” เป็น “พระโสดาบัน” ครั้งแรก.. ที่มีปัญญาระดับโลกุตตระคือ พ้น! แต่ยัง.. พ้นไม่เด็ดขาด!! ต้องมีอีก ขั้นที่สอง.. ก็เป็น “พระสกิทาคามี” มีปัญญาใกล้เคียงกับพระโสดาบัน แต่มีสมาธิมากขึ้น ปัญญาขั้นที่สาม.. คือ เห็นแล้วว่า “กายนี้.. เป็นทุกข์” กามนี้เป็นเรื่องที่มีแต่โทษ! จึงไม่หวังเรื่อง “กาม” ก็จะกลายเป็นผู้ที่มีสมาธิสมบูรณ์ เพราะว่า.. “กาม” เป็นตัวทำให้สมาธิไม่ค่อยได้ ฟุ้งซ่าน! ไปในเรื่องของกาม ฟุ้งซ่าน! ไปในเรื่องต่างๆ ทำให้ไม่มีสมาธิ พอเว้นจากกามได้ เห็นโทษของกาม เป็นผู้สมบูรณ์ด้านสมาธิ ก็กลายเป็น “พระอนาคามี” ปัญญาขั้นที่สี่.. เห็นความจริง ทั้งรูป ทั้งนาม โดยเฉพาะ เรื่องของนาม เรื่องของจิต เห็นจิตเนี่ย เป็นทุกข์ล้วนๆ ! เรื่องราวต่างๆ ที่เป็นอยู่ มีชีวิตอยู่เนี่ย “เป็นเรื่องของทุกข์ล้วนๆ” เข้าใจถึงว่า.. “ขันธ์ห้านี้เป็นทุกข์” เหตุแห่งทุกข์ ก็คือ มีตัณหา สภาวะที่พ้นทุกข์มีอยู่ และทางพ้นทุกข์ ก็คือ “มรรคมีองค์แปด” เข้าใจในเรื่องของ “ทุกข์” และ “เหตุแห่งทุกข์” แล้วก็ “ทางพ้นทุกข์” “สภาวะที่พ้นทุกข์ ” เข้าใจแบบนี้ก็เป็น “พระอรหันต์” พอเป็นพระอรหันต์ได้ ก็เรียกว่า จะมีทุกข์แค่เพียง.. ร่างกาย แต่จิตใจไม่ทุกข์แล้ว ถ้าดับไปแล้ว..ก็ขันธ์ห้าดับ! เรียบเรียงจากตอบปัญหาธรรม รายการคลิกใจให้ธรรม ตอน “กรรมกำหนด” ออกอากาศวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๖๒ ลิงค์รายการ https://youtu.be/wJmLT2R-jRg (นาที 09:55 –12:10)

อ่านต่อ