วันศุกร์ที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๕ วันพระ แรม ๑๔ ค่ำ เดือนเก้า(๙) ปีขาล พระกฤช #ฝากคิด #ฝากคำ #กัลยาณมิตร การได้กัลยาณมิตรที่ทำได้จริง จะมีประโยชน์ตรงที่ว่า.. ท่านมีประสบการณ์เองจริง ! เวลาสอนเนี่ย โอกาสผิดเพี้ยนน้อยมาก แต่ถ้าผู้สอนที่ยังไม่รู้จริง เวลามาบอกสอนเนี่ย มีโอกาสที่จะตีความเอาเอง ซึ่งจะทำให้ผิดเพี้ยน ก็เป็นไปได้อยู่! ดังนั้น ประเมินตัวเองว่า.. เรายังไม่ได้พระอริยะขั้นใดขั้นหนึ่ง สิ่งสำคัญคือ “ซื่อตรง”! ซื่อตรงต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า แม้แต่ผู้พูดจะเป็นผู้วิกลจริต.. อย่าว่าแต่ปุถุชนธรรมดานะ เป็นผู้วิกลจริต! แต่เอา “คำภาษิต” ของพระพุทธเจ้ามาบอกต่อ.. ก็ยังเป็นประโยชน์กับเรา ขอให้เราได้มี “โยนิโสมนสิการ” คือ รู้จักจับเอาประเด็นขึ้นมา ตรงนี้ท่านเปรียบเหมือนว่า.. คนตาบอดจุดตะเกียง ยังเป็นประโยชน์กับคนตาดี ..ได้เห็นทาง! คนตาบอดนั้น..ก็ยังบอดอยู่นั่นเอง ไม่เห็นแสงสว่าง แต่แสงสว่างนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว จากที่เขาได้จุด ถึงแม้เขาจะไม่เห็น! ฉะนั้น เราเองต้องทำหน้าที่ของเราด้วย คือ.. รู้จักมอง รู้จักมอง คือ คุณธรรมที่เรียกว่า “โยนิโสมนสิการ” ซึ่งเป็นปัจจัยอีกอันหนึ่ง ที่จะทำให้เกิด “สัมมาทิฎฐิ” นอกจากจะมีศรัทธาแล้ว จะต้องมีโยนิโสมนสิการ และศรัทธาที่ดีคือ.. พาให้เราไปหากัลยาณมิตร แล้วเกิดศรัทธา แล้วไปนั่งใกล้ เข้าไปฟังธรรม แล้วต้องให้ถึง”โยนิโสมนสิการ” ถ้าเอาแต่ศรัทธา.. ไม่พอ! เพราะยังศรัทธาอยู่ ก็แสดงว่า.. ยังเชื่อ! ยังเชื่อ แสดงว่า.. ยังไม่ถึง! พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล เรียบเรียงจาก รายการ “คลิกใจให้ธรรม” ตอน “วิธีดูใครเป็นกัลยาณมิตร” ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๕ ลิงค์วีดีโอ https://www.youtube.com/watch?v=eeHZCl5iBgw นาทีที่ 49.28-51.33

อ่านต่อ