วันพุธที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒
วันพระ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๘
☘️☘️☘️
พระกฤช #ฝากคิด #ฝากคำ ๒๒๐
ชีวิตประจำวันนะ!
ให้มันกลมกลืนไปกับการปฏิบัติธรรม ไม่แยก!
ไม่ใช่รีบทำงานอะไรแล้วก็เพื่อที่จะให้งานเสร็จ(เร็วๆ) แล้วจะได้ไปภาวนา
อย่างนี้เรียกว่าเป็นการแยกกันระหว่างการทำงานกับการภาวนา
อย่างนี้ไม่ได้กิน!
มันจะกลายเป็นว่า จะมีเวลาสักกี่นาทีในการภาวนา?
แต่ถ้าเรากลืมกลืนไปกับชีวิตไปเลย เราได้ภาวนาหลายชั่วโมง!
(การภาวนา)ไม่ใช่ไปแบ่งแยกต้องอยู่คนเดียวเท่านั้น จึงจะภาวนาได้..
ต้องไปป่าเท่านั้น จึงจะภาวนาได้..
หรือต้องมาวัดเท่านั้น จึงจะภาวนาได้..
อย่างนี้เรียกว่า แบ่งชีวิตออกมาเป็นสองส่วน
อย่างนี้มันไม่ได้กลมกลืน
แล้วถ้าหวังเพียงแค่นั้นนะ!
จะไม่มีเวลาภาวนา.. จะหาโอกาสภาวนายาก!
มาถึงวัดแล้วก็ไม่ได้ภาวนานะ!!
‘ต้องให้ได้เวลาทำวัตรเย็นเท่านั้น’ จึงจะได้ภาวนา
อย่างนี้..ยาก!
มันต้องกลมกลืนไปกับชีวิต!
ชีวิตอยู่กับที่ทำงาน
ชีวิตอยู่ระหว่างการเดินทาง
กลับมาถึงบ้านใจคอเป็นยังไง?
ผ่านการทำงานมาทั้งวันแล้วเนี่ย..ร่างกายเหนื่อยอ่อน จิตใจเป็นยังไง?
บางคนร่างกายเหนื่อยอ่อน จิตใจเหนื่อยอ่อนไปด้วย
บางคนร่างกายเหนื่อยอ่อน แต่จิตใจยังสดชื่นอยู่
ก็รู้ทัน!
(การภาวนา)ไม่แบ่งเวลาเป็นสองส่วนอย่างนั้น
แต่ให้กลมกลืน
ต้องภาวนาไปกับการทำงานด้วย ให้มันกลมกลืนไป
ไม่ว่าจะป็นพระ ไม่ว่าจะเป็นโยม (ภาวนาให้กลมกลืนอย่างนี้)มันจึงจะเจริญก้าวหน้า
เพราะว่าการภาวนาในชีวิตประจำวันมันทำได้ตลอดเวลา
แล้วก็ถ้ารวมเวลาในการภาวนาแล้วก็จะได้มากหลายชั่วโมง
ที่จะหวังผลจากการภาวนาถึงขั้นมรรคผลนิพพานจึงจะเกิดขึ้นได้
ถ้าเอาแค่ทำวัตรแล้วค่อยภาวนาอย่างนี้ยาก!
เพราะว่า(จะมี)เวลาน้อย (เวลา)เหลือน้อย
แล้วระหว่างวันก็ไม่ได้ภาวนาแล้ว
พอในเวลาทำวัตรนั่งสมาธิก็จะกลายเป็นว่า..
กว่าจะสงบขึ้นมาได้
กว่าจะรู้จิตขึ้นมาได้นี่.. ฟุ้งซ่านไปตั้งนานแล้ว
เพราะว่ามันเก็บความฟุ้งมาตลอดเกือบ ๒๔ ชั่วโมง
พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล
☘️☘️☘️
เรียบเรียงจากตอบปัญหาธรรมในรายการ”ธรรมะสว่างใจ”
เมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๒
ไฟล์วิดีโอhttps://nimmalo.com/video/dhammasawangjai/s14/
(ระหว่างเวลา ๕๑.๐๒ – ๕๕.๓๐ )