วันพุธที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๔ วันพระ แรม ๑๕ ค่ำเดือนยี่ (๒) ??? พระกฤช #ฝากคิด #ฝากคำ #สัมภเวสี จิตแสวงหาที่เกิด “สัมภเวสี” ในความหมายของเถรวาท คือ ผู้ที่ยังไม่ใช่พระอรหันต์ เรียกว่าสัมภเวสีทั้งหมด กำลังแสวงหาภพ แสวงหาที่เกิดของจิตอยู่ร่ำไป เพราะฉะนั้น เวลาที่เรากำลังคิด ‘เอาจิตไว้ไหนดี ?’ นั้นแหละ..คือ สัมภเวสี นึกออกไหม? ฉะนั้น พวกเราเนี่ยเป็นกันหมดเลย รวมทั้งอาตมาด้วย ! ถ้ายังไม่ใช่พระอรหันต์ เรียกว่า สัมภเวสี-แสวงหาที่เกิด พระอนาคามี ยังแสวงหาที่เกิดอยู่ ท่านยังพอใจในการเข้าฌาน ยังมีการเคลื่อนไปเข้าฌาน จิตยังเคลื่อนไปเข้าฌาน ท่านยังมีงานของท่านอยู่ว่า..ท่านต้องเห็นสังโยชน์ตัวที่เรียกว่า รูปราคะ อรูปราคะ รูปราคะ คือ ราคะในรูปฌาน อรูปราคะ คือ ราคะในอรูปฌาน คือเวลาท่านจะเข้าฌานเนี่ยยังต้องเคลื่อนอยู่ จิตต้องเคลื่อนไปเข้าฌาน อันนี้เป็นงานของท่าน เล่าให้ฟังเฉย ๆ ให้เห็นว่าแม้แต่พระอนาคามีก็ยังอยู่ในประเภทแสวงหาภพ แต่เราไม่ต้องไปห่วงท่านนะ ห่วงเราก่อน! เราเนี่ยก็แสวงหาภพ ยังตายแล้วต้องไปเกิด ในระหว่างที่ยังไม่ตายทางร่างกาย จิตก็ยังแสวงหาภพอยู่ ถ้าเรามองเห็นตัวนี้ได้..เราจะภาวนาได้ง่ายขึ้น เวลาคิดจะภาวนา แล้วกำลังตั้งท่าว่า ‘จะภาวนาอย่างไรดี ?’ อันนี้ชัดเจนเลย กำลังเป็นสัมภเวสี เพราะฉะนั้น แม้ว่าสภาวะอย่างนี้จะดูไม่ดี และชื่อเรียกก็น่ารังเกียจมากเลย.. “สัมภเวสี” แต่ถ้าเรารู้นะ เราได้ “ตัวรู้” ขึ้นมาเลย จิตรู้ขึ้นมาเลย ถ้ารู้ด้วยใจเป็นกลาง จิตก็ตั้งมั่นขึ้นมาเลย นี้ก็เป็นสภาวะหนึ่ง จะบอกว่าเป็นกิเลสตัวไหน ? ก็อาจจะยากสำหรับเรา ก็ไม่จำเป็นต้องเรียกชื่อว่ากิเลสตัวนี้ชื่ออะไร แต่รู้อยู่ว่า จิตกำลังแสวงหาอยู่ ก็ใช้ได้ เช่น อยากจะทำดี อยากจะภาวนานะ แล้วคิดว่าจะทำยังไงดี นี่แสวงหาอยู่นะ ขณะนั้นเป็น “สัมภเวสี” อนุญาตให้อุทานในใจได้เลย.. ‘สัมภเวสีแล้วกู!’ ธรรมบรรยายโดย พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล เรียบเรียงจากธรรมบรรยาย ณ คอร์ส ก.ล.ต. เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๓ ลิงค์แสดงธรรม https://bit.ly/3i0u8Jj (นาทีที่ 30.58-33.42)

อ่านต่อ