ทำบุญเพื่อเข้าตัว..หรือทำเพื่อสละออก

วรรคทอง..วรรคธรรม #๔๒

ทำบุญเพื่อเข้าตัว..หรือทำเพื่อสละออก

ถ้าคิดที่จะทำเพื่อตัวเองเนี่ยนะ!
อาการเดียวกัน..”ให้”เหมือนกัน
แต่คิดที่จะให้..เพื่อตัวเองได้บุญ
กับ
ให้เขาไป..เพื่อสงเคราะห์เขา
ความคิดตรงนี้ไม่เหมือนกัน
อาการเหมือนกัน..แต่บุญไม่เท่ากัน

พูดคำเดียวกัน..
พูดแบบตั้งใจจะเสียดสี
กับ
พูดหยอกล้อ
..ไม่เหมือนกัน
คำพูดแบบเดียวกัน..ผลไม่เหมือนกัน
ขึ้นอยู่ที่เจตนาในใจ!

คนจะสร้างบารมี คิดเอาบารมีใส่ตัว
ทำอันนี้แหละ..คิดว่าบารมีเยอะดี!
เช่น มีอยู่คนหนึ่งช่วยงานครูบาอาจารย์
ไปถ่ายวีดีโอ ไปเก็บภาพ ติดตามไปทุกหนทุกแห่ง ที่ท่านไปแสดงธรรมตามสถานที่ต่างๆ
คิดอยู่แค่ว่า..
‘สิ่งที่ท่านบรรยาย..น่าจะเป็นประโยชน์แก่คนอื่น’
เสียดายว่า..’ถ้าท่านพูดไปแล้วรู้เฉพาะคนตรงนี้’
ก็อุตส่าห์ไปเก็บภาพ ไปเก็บเสียง ออกทุนทำเองด้วย
ทำไปๆ ครูบาอาจารย์ทัก
“อืม..บารมีเยอะนะเนี่ย!”
ก็ตอบแบบงงๆ “ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับ”
ครูบาอาจารย์ก็ชี้ให้เห็นว่า
“เนี่ย! ที่ติดตามไปทำอย่างนี้นะ บารมีเยอะนะ
ทำอย่างนี้บุญเยอะ คือตั้งใจให้คนอื่น”
คือเขาตั้งใจที่จะเก็บธรรมะเผื่อแผ่คนอื่น
ไอ้คนนั้นก็ดีใจว่า..
งานที่ตัวเองทำเนี่ย..ได้บารมีเยอะ!
ทีนี้ หลังจากนั้น..
ตอนจะไปไหนติดตามครูบาอาจารย์แต่ละที ก็จะคิดว่า..
‘วันนี้เราจะได้บุญบารมีเท่าไหร่?’
คิดว่า ‘เราจะได้บุญ เราจะได้บารมี’
ทำคราวนี้ไม่ได้ทำเพื่อเผยแผ่พระธรรมแล้ว
ทำเพื่อ..”กูจะได้บารมี”
อาการเดียวกันเลย..ติดตามครูบาอาจารย์ไป
ไปถ่ายรูป ไปถ่ายวีดีโอ เอามาตัดต่อ เผยแผ่
ทำแบบเดียวกันเลย แต่คิดไม่เหมือนกัน
คิดทีแรกไม่ได้คิดว่า ‘กูจะได้บารมี’
คิดแต่ว่า..เดี๋ยวจะเก็บธรรมมะไปเผื่อแผ่คนอื่น
การกระทำเหมือนกัน ก็เป็นบุญนะ!
แค่จะให้ตัวเองมีบารมี..ก็เป็นบุญเหมือนกัน
..แต่บุญนิดเดียว !!
เทียบกับตอนที่ไม่คิดเอาเข้าตัวเนี่ย! ทำแบบบริสุทธิ์ใจ เขาเรียกว่าส่วนผสมไม่เหมือนเดิม
เคมีไม่เหมือนเดิม ผลออกมาไม่เท่ากัน
ไปปล่อยปลา อยากจะได้อายุยืนๆ นะ!
กับ
ปล่อยปลาเพื่อให้ปลามีชีวิตรอด
ความคิดไม่เท่ากัน..ไม่เหมือนกัน
แต่อาการเดียวกัน..คือปล่อยปลา
ไปไถ่ชีวิตวัว เพื่อให้ฉันมีอายุยืน หรือหายเจ็บหายป่วย
คิดอย่างนี้ก็ได้บุญนะ! แต่นิดนึง!
กับ
คิดที่จะให้วัวนั้นพ้นทุกข์ไป
อย่างนี้..คิดไม่ได้เอาเข้าตัว
อาการเดียวกัน..เสียเงินเท่ากัน..แต่บุญไม่เท่ากัน
เวลาอยู่กับโลก..ถ้าคิดจะเอาโลกมาเสริมตัวเองนะ
ก็เท่ากับว่ายังอยู่กับโลกอีกนาน
แต่ถ้าจะอยู่กับโลก แล้วก็คิดสงเคราะห์คนอื่นไปเรื่อยๆ
ไม่ได้คิดจะเอาเข้าตัวนะ!
แต่มันอดไม่ได้หรอกมันต้องเอาเข้าตัวบ้าง
แต่คิดที่จะสงเคราะห์เขามากกว่าที่จะเอาเข้าตัว มันก็จะเห็นผลของบารมีที่เสริมขึ้นมา
ความแตกต่างของอาการ..ดูภายนอกเนี่ยดูไม่ออก
แต่ในใจเรานี่ จะรู้เองว่า
คิดที่จะไม่เอาเข้าตัวนี่มันเบา
มันสบายแล้วก็ไม่เป็นภาระ ไม่ห่วง ไม่กังวล
มีความยินดีที่จะทำให้มากกว่านั้นด้วยซ้ำไป
เหมือนที่พระพุทธเจ้าตอนที่เป็นพระโพธิสัตว์
พระองค์ตรัสเปรียบเทียบไว้ว่า
ถ้าเส้นทางปลายทางถึงจุดหมายคือ..เป็นสัมมาสัมพุทธะ ถ้าระหว่างทางเป็นถ่านเพลิง แล้วเขาบังคับให้เดินลุยถ่านเพลิงที่เป็นถ่านแดงๆเนี่ยนะ! ท่านก็เต็มใจไป
ถ้าปลายทางเป็นสัมมาสัมพุทธะ
คือ..คิดที่จะช่วยคนอื่น
ไม่ได้เป็นสัมมาสัมพุทธะเพื่อที่จะข่มคนอื่น
แต่คิดที่จะช่วยเหลือคนอื่น
ท่านจึงบอกว่า
คนที่คิดจะเป็นสัมมาสัมพุทธะ ถ้าไม่มี”มหากรุณา”นะ.. ไปไม่รอด!
ต้องคิดที่จะช่วยเหลือคนอื่น
อยู่ในสังคมก็จะมีการกระทบกระทั่งกัน
ถ้ามีการกระทบกระทั่งกัน แล้วเราก็คิดเอาเข้าตัวเนี่ยนะ!
คราวนี้ยุ่งเลย..ต่างคนก็จะคิดที่จะเอาเข้าตัว
แต่ถ้าคิดเพื่อที่จะสงเคราะห์คนอื่น
มันจะมีความอ่อนโยน มีความอะลุ่มอล่วย
มีความเมตตาให้แก่กัน
เวลามองปัญหา
ก็จะไม่มองแบบคิดแก้ไขปัญหาแบบฉาบฉวยรุนแรงเพื่อป้องกันตนเอง แต่จะมองด้วยความรอบคอบ มีความใจเย็น ในการมองปัญหา
ที่คิดแก้ปัญหาอะไร ต่างๆ ก็จะรอบคอบ
ถ้าเราคิดที่จะป้องกันตนเองนะ! จะคิดอีกแบบหนึ่ง วิธีแก้ปัญหาจะเป็นอีกแบบหนึ่ง
ถ้าคิดที่จะสงเคราะห์คนอื่น วิธีแก้ปัญหาจะเป็นอีกแบบหนึ่ง
คนเราก็เคยผิดพลาด
เวลาเรามองว่า..ตัวเองเคยผิดพลาดนะ!
ก็จะเห็นใจคนอื่นว่า.. ‘เขาคงคล้ายๆเราเมื่อก่อนนี้แหละ!’ อย่างนี้นะ!
พอคิดอย่างนี้..มันจะมีวิธีแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้น
จะเห็นใจคนอื่น..

ธรรมบรรยายโดย พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล
เรียบเรียงจากงานทำบุญบ้านโยม
๓ ตุลาคม ๒๕๕๘