มารคาถา…ตอน มัจจุมาร

วรรคทอง..วรรคธรรม #๓๙

มารคาถา…ตอน มัจจุมาร

คนที่คิดว่าตัวเองมีเวลาน้อย
จะเห็นคุณค่าของเวลา..แม้ที่มีนิดหน่อย
เช่น คนที่กำลังจะตาย จะเห็นว่า..ตนมีเวลาเหลือน้อย
จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ตรงนี้
เอามาเป็นประโยชน์ต่อการภาวนา
แต่คนคิดว่า ‘ยังไม่ตายหรอก..อีกนาน!’ ก็จะลั้นลาไปเรื่อยๆ
แล้วคนก็เป็นอย่างนี้เสียส่วนมาก!
เวลาท่านให้นึกถึงความตาย
ท่านจึงให้ดู..เพื่อไม่ให้ประมาท
ไม่ใช่ขู่ให้กลัว!
ฉะนั้น ในแง่ของ ‘ขันธมาร’ ท่านให้เห็นว่า..
ชีวิตคือขันธ์ทั้งห้าเหล่านี้ เป็นที่ตั้งแห่งทุกข์ ถูกความเจ็บไข้บีบคั้นเบียดเบียน ขัดขวางการเจริญกุศล ..เป็นเครื่องเตือนใจ
แล้ว ‘มัจจุมาร’ ก็เป็นเครื่องเตือนใจซ้ำ ย้ำไปอีกครั้งว่า
เวลาแห่งชีวิตหรือขันธ์ชุดนี้ก็มีน้อย
ที่ต้องย้ำ เพราะบางที ‘ขันธมาร’เนี่ย.. เราจะรู้ได้ยาก
ต้องใช้ ‘มัจจุมาร’ มาเตือน!
จริงๆ แล้ว มารทั้งห้านี่นะ!
ถ้ามองในแง่เป็นตัวขัดขวางเป็นอุปสรรค
ก็เป็นอุปสรรคจริงๆ..ถ้าเราประมาท!!
ชีวิตนี้ถ้าเกิดมาเป็นคน
แล้วไม่ได้พัฒนาตนเองเลย..แล้วตายไป
ไอ้ตอนตาย..ความตายนี้แหละเป็น ‘มัจจุมาร’
ความตายนี้เป็นตัวขัดขวาง เพราะตัดโอกาสที่จะทำความดี
ทำให้ชีวิตนี้เกิดมาแล้ว หมดเวลาพัฒนา
ตายไป..ก็ไม่แน่จะเกิดมาเป็นคนอีกหรือไม่
บุญพอหรือเปล่า..ก็ยังไม่รู้?
แต่ที่แน่ๆเลย คือ..หมดสิทธิ์แล้ว!
ชีวิตนี้หมดสิทธิ์ไปแล้ว..หมดเวลา!
‘มัจจุมาร’ จึงเป็นตัวขัดขวาง..
ทำให้เวลามีจำกัด
เวลาของเรา..มีจำกัด
เกิดขึ้นมาแล้ว ต้องตายทุกคน
ถูกตัดสินประหารชีวิตไว้แล้วทุกคน ตั้งแต่เกิดมา ตั้งแต่ปฏิสนธิ
จริงๆ ไม่เฉพาะพวกเราหรอก
ทั้งเทวดา ทั้งสัตว์ทั้งหลาย ทั้งหมดเลย
ที่เกิดอยู่ในสามโลก
ทั้งที่อยู่ในกามภพ รูปภพ อรูปภพ
เกิดแล้วต้องตายทุกที่
แต่ถ้าเห็นว่า..ความตายเป็นเครื่องเตือนใจได้
‘มัจจุมาร’ ก็กลายเป็น ‘มัจจุมิตร’
อธิบายอย่างนี้รู้สึกว่า..
มารไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่เนอะ

ธรรมบรรยายโดย พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล
เรียบเรียงจากซีดี บ้านจิตสบาย ๕
มารคาถา .. ตอน มัจจุมาร
เทศน์ ณ บ้านจิตสบาย
วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๗