เวลานั่งสมาธิ การเห็นเกิดดับ ใช้ความรู้สึกได้ใช่ไหมครับ?

ถาม : เวลานั่งสมาธิ การเห็นเกิดดับ ใช้ความรู้สึกได้ใช่ไหมครับ?

เช่น เวลาเรื่องโน้นเข้ามา หรือจิตปรุงแต่งขึ้นมา หรือบางครั้งมีอะไรซักอย่างดันขึ้นมากลางอก แล้วก็หายไป (หลังจากนั่งจนจิตรวมแล้วจิตตั้งมั่น)
อย่างนี้ถูกไหมครับ?
เวลานั่งประมาณ ๔๐-๕๐ นาที จะเกิดเวทนาปวดเมื่อยที่ขา บางครั้งจะเห็นชัดว่า หายใจ เวทนา คนละส่วนกัน แต่บางครั้งก็ดูไม่ชัด จะสู้กับเวทนาได้ไม่นาน
ก็ต้องถอย อย่างนี้เดินปัญญาไหมครับ?

ตอบ : ขอแยกตอบทีละประเด็นนะ

๑. เวลานั่งสมาธิ การเห็นเกิดดับ ใช้ความรู้สึกได้ใช่ไหมครับ?
ตอบ ๑ : การภาวนาแบบแค่ “รู้สึก” เมื่อมีสภาวะอะไรก็ตามเกิดขึ้น ก็จะทำให้เห็นว่า..
สภาวะนั้น ๆ เกิดแล้วก็ดับ

๒. เวลาเรื่องโน้นเข้ามา หรือจิตปรุงแต่งขึ้นมา หรือบางครั้งมีอะไรซักอย่างดันขึ้นมากลางอก แล้วก็หายไป (หลังจากนั่งจนจิตรวมแล้วจิตตั้งมั่น)
อย่างนี้ถูกไหมครับ?
ตอบ ๒ : ถ้าเป็นตามที่บอก ก็ถูกนะ
แต่ถ้าสงสัยว่าจะบอกตามที่เป็นหรือไม่ ก็ต้องไปส่งการบ้านกับครูบาอาจารย์แล้วล่ะ

๓. เวลานั่งประมาณ ๔๐-๕๐ นาที จะเกิดเวทนาปวดเมื่อยที่ขา บางครั้งจะเห็นชัดว่า หายใจ เวทนา
คนละส่วนกัน แต่บางครั้งก็ดูไม่ชัด จะสู้กับเวทนาได้ไม่นาน ก็ต้องถอย อย่างนี้เดินปัญญาไหมครับ?
ตอบ ๓ : จุดมุ่งหมายของการภาวนา ไม่ใช่เพื่อ “สู้” กับเวทนานะ
แต่ภาวนาเพื่อให้รู้ตามความเป็นจริงว่า เวทนาก็เป็นเพียงสภาวะหนึ่ง ที่ไม่ใช่เรา เกิดแล้วก็ดับ
เปลี่ยนไปตามเหตุปัจจัย

แรก ๆ อาจจะเห็นแบบแยกขันธ์ เช่น เวทนาเป็นส่วนหนึ่ง กายเป็นส่วนหนึ่ง หรือเห็นว่าเวทนาเป็นส่วนหนึ่ง
จิตเป็นอีกส่วนหนึ่ง แยกขันธ์อย่างนี้ก็นับว่าเริ่มเดินปัญญา

พอเริ่มเดินปัญญาแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะเดินปัญญาอยู่ตลอด บางทีก็เผลอ ขันธ์ก็รวมมาเป็นเราอีก เพราะใจลึก ๆ มันยังไม่เชื่อ จึงต้องเพียรฝึกเจริญสติ เจริญสมาธิ
ให้จิตตั้งมั่น ก็จะเกิดปัญญาแยกขันธ์ เห็นไตรลักษณ์ได้ใหม่
ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกว่าใจจะยอมรับความจริง

พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล
เรียบเรียงจากตอบโจทย์บนนิมฺมโลเพจ
วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙