ทำบุญที่วัด เห็นพระแล้วปิ๊ง ควรทำอย่างไร

ถาม : ถ้าหนูทำบุญที่วัดกับแม่ เห็นพระแล้วปิ๊ง แต่ห้ามใจไม่ได้ หนูควรทำอย่างไรดีคะ ?

ตอบ : ถ้าห้ามใจไม่ได้ ก็ห้ามกายกับวาจาไปก่อน

ห้ามกาย คือ ไม่นำกายไปใกล้ชิดกับท่าน ไม่อยู่กันสองต่อสอง แต่งกายนุ่งห่มให้เรียบร้อยมิดชิด ฯลฯ

ห้ามวาจา คือ ไม่บอกรักท่าน ไม่พูดเกี้ยว ไม่เว้าวอน ไม่เวิ่นเว้อ ไม่แซว ไม่ปรึกษาเรื่องส่วนตัว ไม่ส่งไลน์ ฯลฯ

ถ้าจะให้ดี.. การห้ามกายกับวาจาที่ควรทำ คือ ตราบใดที่ยังปิ๊งอยู่ ก็ไม่พบท่านเลย และไม่คุยกับท่านเลย
เพราะเป็นการหมิ่นเหม่ ต่อการสร้างกรรมฝ่ายอกุศลอย่างมาก

ถ้าท่านเป็นพระที่ไม่ดี ก็ควรปล่อยท่านไป ไม่ควรนำมาเป็นภาระกับชีวิตของเรา
.. เราแยกออกไหม ว่าพระไม่ดีเป็นอย่างไร ?

ถ้าพระท่านเป็นพระที่ดี ก็ควรปล่อยให้ท่านศึกษาและปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ให้เต็มกำลังของท่าน
อย่าให้ท่านหวั่นไหว เพราะเราเป็นต้นเหตุ

เปลี่ยนจากรักที่เป็นราคะ – ปรารถนามาเป็นเจ้าของ มาเป็นเมตตา – ปรารถนาให้ท่านมีความสุข
ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติ บรรลุมรรคผลนิพพาน

ถ้ารักจริง ๆ ก็ควรเป็นรักแบบเมตตา
ปรารถนาเห็นความก้าวหน้าในทางที่ดีของบุคคลที่เรารัก

ถ้ารักแบบอยากเป็นเจ้าของ ใจก็เศร้าหมองทันที
ถ้าคิดว่าต้องได้มาเท่านั้นจึงจะสุข ก็ทุกข์ทันทีที่คิดอยาก

แล้วก็ไม่มีอะไรเป็นหลักประกัน ว่าอยู่ด้วยกันแล้วชีวิตจะดีอย่างที่ฝันไว้

แรก ๆ ที่ปิ๊ง อะไร ๆ ก็ดูดี เพราะเรามี “อคติ” มาบังใจ
เบื้องหลังที่เรายังไม่ได้ดู มักมีกิเลสอยู่บานตะไท

รักพระไม่ดี – ชีวีล้มเหลว เพราะพระดีหรือเลวก็ยังแยกไม่ได้
รักพระเลว – ก็เตรียมตกนรก เพราะเขาคิดลามกตั้งแต่ยังไม่สึกออกไป

รักพระดี – ก็เตรียมอกหัก เพราะใจท่านรักแต่พระรัตนตรัย
รักพระดี – ให้ได้บุญ ควรทำใจคุณให้เป็นหนึ่งในรัตนตรัย

พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล
เรียบเรียงจากตอบโจทย์บนนิมฺมโลเพจ
วันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๙