วันเสาร์ที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๑
วันพระ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนอ้าย (๑)
???
พระกฤช #ฝากคิด #ฝากคำ ๑๙๐
มีธรรมอยู่ชุดหนึ่ง เรียกว่า “ปฏิปทา ๔”
๑. ปฏิบัติเป็นอย่างทุกข์ บรรลุช้า (ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธาภิญฺญา)
๒. ปฏิบัติเป็นอย่างทุกข์ บรรลุเร็ว (ทุกฺขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิญฺญา)
๓. ปฏิบัติเป็นอย่างสุข บรรลุช้า (สุขา ปฏิปทา ทนฺธาภิญฺญา)
๔. ปฏิบัติเป็นอย่างสุข บรรลุเร็ว (สุขา ปฏิปทา ขิปฺปาภิญฺญา)
ตอนปฏิบัติจะเป็นอย่างทุกข์หรืออย่างสุข..
อันนี้มันขึ้นอยู่กับว่า..
ผู้ปฏิบัตินั้นมีกิเลสรุนแรงแค่ไหน!
ถ้ามีกิเลสรุนแรง ก็ต้องมีปฏิปทาที่จะเป็นทุกข์บ้าง
แต่ทุกข์นั้น ทำให้ท่านมีสติได้ง่าย
แล้วก็ทำให้ท่านไม่มีความประมาท
ทำแล้ว เกิดเจริญสติ รู้สึกตัวได้ง่าย
แล้วก็ไม่มีความประมาท
ปฏิบัติเหมือนเป็นทุกข์..
หมายถึงว่า..มีทุกขเวทนาแต่ไม่ทุกข์ใจ
ทุกข์นั้นกระตุ้นให้ท่านไม่ประมาท
มีทุกข์แล้ว ทำให้ปฏิบัติดี
บางท่านอดอาหาร แล้วมีสติดี
บางท่านอดนอน แล้วมีสติ..อย่างนี้นะ!
อดนอนแล้วมีความเพียรดี สติดี
มีแต่กุศลเกิด มีแต่กุศลเจริญขึ้นมา
อย่างนี้เรียกว่า..มีทุกขาปฏิปทา
เข้าใจไหม?
ต้องเดิน.. เดินไกลๆ หน่อย
ไปอยู่ในที่ลำบากหน่อย
แล้วรู้สึกว่า..จะ(กระตุ้นให้)มีความเพียรดี
จะมีการกระตุ้นความรู้สึกตัว
แล้วกระตุ้นความไม่ประมาทขึ้นมา
อย่างนี้เรียกว่า..มี “ทุกขาปฏิปทา”
…..
แต่ถ้ากิเลสไม่รุนแรงไม่หยาบ
ก็ปฏิบัติแบบเป็นอย่างสุข..”สุขาปฏิปทา”..ก็สามารถบรรลุได้
กิเลสรุนแรงหนาแน่น แต่ว่าอินทรีย์แก่กล้า
มีศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญาแก่กล้า ก็ “ทุกขาปฏิปทา” แต่บรรลุได้เร็ว
ตัวที่จะตัดสินว่าท่านควรจะมีทุกขาปฏิปทา หรือ สุขาปฏิปทา
อยู่ที่กิเลส ว่าหนาแน่นแค่ไหน?
รุนแรงแค่ไหน?
ส่วนตัวที่จะตัดสินว่าบรรลุเร็วแค่ไหน?
มันอยู่ที่ตัวกำลัง..
กำลังในที่นี้คือ อินทรีย์
ว่ามีอินทรีย์แก่กล้าแค่ไหน?
ธรรมบรรยายโดย
พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล
???
เรียบเรียงจากธรรมบรรยายเรื่อง
“ปฏิบัติธรรมอย่างมีความสุข”
ครั้งที่ ๓๓ พุทธปัญญาปากน้ำ
๓๐ เมษายน ๒๕๖๐
ลิงค์วีดีโอ https://www.youtube.com/watch?v=pNAKTXf-0nA
(นาทีที่ 58:12-1:01:03)
ถอดคำโดย..อารยา สุวะมาตย์