วันเสาร์ที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๓ วันพระ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๒ ??? พระกฤช #ฝากคิด #ฝากคำ ระวัง! #วงจรปิด นักปฏิบัติจะเห็นไตรลักษณ์ได้ชัดเจน คือตอนที่มันมีกิเลส จิตที่มีกิเลสเกิดขึ้นมา แล้วรู้ด้วยใจที่เป็นกลาง ความโกรธ เกิดขึ้นมา แล้วรู้ด้วยใจที่เป็นกลาง ความเผลอ เกิดขึ้นมา แล้วรู้ด้วยใจที่เป็นกลาง แต่ส่วนใหญ่ยุคนี้นะ! จะเห็นจิตที่โกรธ เห็นจิตที่โกรธ แล้วก็ได้ของดี คือได้ความรู้ ได้ความเข้าใจ นั้นอย่าไปหวังเพียงแค่กลางทาง ไม่งั้นเราจะถูกทิ้งไว้กลางทาง แล้วคนที่ทิ้ง ไม่ใช่ใคร! เราเอง เราทิ้งตัวเองไว้กลางทาง ไม่มีใครปล่อยเราไว้ตรงนั้นเลย เราหวังไว้กลางทางเอง พอถึงกลางทางก็ลง มันไม่นั่งต่อ เพราะเราคิดว่าถึงแล้ว เพราะเราตั้งเป้าหมายไว้เพีงแค่กลางทาง นั้นอย่าตั้งเป้าหมายทิ้งตัวเองไว้กลางทาง ดังนั้นในระหว่างที่ปฏิบัติก็อย่าเพียงแค่ภาวนากันอย่างเดียว เรายังอยู่ในสังคม ยังอยู่กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ต้องมีความศิวิไลซ์อย่างที่นักมานุษยวิทยา (คนนั้น) ได้กล่าวไว้ ก็คือว่า..ต้องมีความเอื้อเฟื้อกัน มีน้ำใจซึ่งกันและกัน มีการให้ทาน มีการรักษาศีล ระวัง! ว่าจะไม่ไปแสดงออกทางกาย ไปเบียดเบียนกัน ไม่แสดงออกทางวาจา ไปเบียดเบียนกัน แล้วก็ให้ระวัง! ไว้อย่างหนึ่งว่า.. เดี๋ยวนี้มันมีกล้องวงจรปิด มันมีมือถือถ่ายคลิปกัน แต่ละคน ๆ จะมีมือถือถ่ายคลิป อย่าคิดว่าไม่มีใครรู้! เราต้องมี “หิริ” มีความละอายต่อบาป มีความเกรงกลัวต่อบาป แม้ไม่มีกล้อง(วงจรปิด) ไม่มีอะไร เราก็ละอายใจ ละอายแก่ใจตัวเอง ไม่มีใครรู้..เราก็รู้ แล้วเราก็เป็นคน ๆ หนึ่งที่รู้ ดังนั้นที่บอกว่าไม่มีใครรู้..ไม่มี! อย่างน้อย ๆ ก็มีเรานี่แหละรู้ ให้ทำดี เอื้อเฟื้อกัน มีน้ำใจต่อกัน ถ้าพูดให้เป็นภาษาวิชาการหน่อยก็คือ.. “มีการให้ทาน มีการรักษาศีล ไม่ใช่เอาแต่การภาวนาอย่างเดียว” ธรรมบรรยายโดย พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล เรียบเรียงจากธรรมบรรยายเรื่อง “ภาวนาแบบศิวิไลซ์” ๒๙ กันยายน ๒๕๖๓ ลิงค์แสดงธรรม https://bit.ly/3marPnN (นาทีที่ 37.05-39.36)

อ่านต่อ