#นิมฺมโลตอบโจทย์ #บุพการี #บุคคลที่หายาก ??? #ถาม : บุคคลที่หายากต้องประกอบอะไรบ้าง และวิธีปฏิบัติที่จะเป็นบุคคลที่หายากทำอย่างไร? #ตอบ : บุคคลที่หายาก แง่หนึ่งเรียกว่า “บุพการี” “บุพการี” แปลว่า บุคคลผู้ทำอุปการะก่อน เป็นผู้มีพระคุณ เช่น พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ เป็นบุคคลที่หายาก คือ ยากที่จะมีใครทำดีกับเราก่อน ยากที่จะมีคนดูแลเราตั้งแต่เกิด คนที่เกิดมาแล้วมีคนดูแลเนี่ย เราได้คนที่หาได้ยาก อย่างน้อย ๆ คือมีพ่อมีแม่ ถ้ามีเกินกว่านั้น เช่นเป็นพี่หรือญาติมาช่วยกันดูแล บุคคลเหล่านั้นก็นับว่าเป็นผู้ที่หายากเช่นกัน เป็นบุพการีเพราะเป็นผู้ที่ทำคุณกับเราก่อน โดยที่เราไม่ได้ร้องขอ หรือแม้แต่ร้องขอก็เถอะ ถ้าเขาช่วย เขาก็คือบุคคลที่หาได้ยาก ***ใครจะมาเลี้ยงดูตั้งแต่ตอนเด็กแบเบาะ..ถ้าไม่ใช่พ่อแม่ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องของ “หน้าที่” ของคนที่ทำให้เราเกิด เขาอาจจะทำให้เราเกิด แล้วไม่เลี้ยงก็ได้!! แต่พอเขาทั้งให้กำเนิดด้วยและเลี้ยงดูจนเติบโตด้วยเนี่ย คือ “พ่อแม่เป็นบุคคลที่หายาก..เป็นบุพการี” *** ในครอบครัว พ่อแม่เป็นบุพการี เป็นบุคคลที่หาได้ยาก ทำไมถึงหายาก? พ่อตายไปแล้ว หาพ่อแทนได้ไหม..ไม่ได้ แม่ตายไปแล้ว หาแม่แทนได้ไหม..ไม่ได้ ญาติ ๆ เราตายไปแล้ว หาญาติแทนได้ไหม ก็หาได้ง่ายขึ้นหน่อยนะ แต่พ่อแม่เนี่ยหายากสุด ถึงได้พูดว่าเป็นผู้ที่หาได้ยากในแง่ที่ว่า มาทำคุณกับเราก่อน..หายากมาก เพราะฉะนั้นใครทำคุณกับเราก่อน บุคคลนั้นเป็นบุพการี-บุคคลหาได้ยาก หน้าที่ของเราผู้ได้รับการอุปการะก่อนก็คือ ต้องกตัญญูก่อน รู้คุณก่อน “กตัญญู” แปลว่า รู้คุณท่าน รู้คุณเฉย ๆ ไม่พอ ยังไม่พอ “อ้อ.. รู้แล้วว่ามีคุณ” แค่นี้ไม่พอ ต้อง “กตเวที” ด้วย เพราะฉะนั้น มีคำ ๒ คำนะ กตัญญู กับ กตเวที “กตเวที” คือ สนองคุณท่าน มีการกระทำเพื่อตอบแทน สำหรับวิธีกระทำเพื่อตอบแทนพ่อแม่ ก็ได้แก่ 1. ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เราก็ทำการเลี้ยงดูท่านตอบ 2. ช่วยทำกิจของท่าน ขวนขวายในกิจการงานของท่าน สมัยก่อนเนี่ยจะชัดเจนเลย ถ้าพ่อแม่มีกิจการอะไร ลูกต้องช่วย แต่เดี๋ยวนี้บางทีพ่อแม่ทำอย่างหนึ่ง ลูกเรียนอีกอย่างหนึ่ง จบแล้วไปทำอีกเรื่องหนึ่ง แต่อย่างน้อย ๆ เมื่อมีโอกาสหาเงินมาได้ ก็มาช่วยกันออกค่าใช้จ่ายบ้าง อย่างนี้ก็ใช้ได้ 3. ดำรงวงศ์สกุล หมายถึงรักษาชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลเอาไว้ 4. ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นทายาท 5. ถ้าพ่อแม่แก่เฒ่าไปก็ทำการเลี้ยงดูพ่อแม่ อุปถัมภ์เลี้ยงดูพ่อแม่จนตาย ตายแล้วก็ยังไม่หมดหน้าที่นะ บุญคุณไม่ได้หมดไปแค่เพียงเพราะพ่อแม่ตายนะ เราเนี่ยเป็นผลผลิตจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่..เรายังอยู่ ผลงานท่านยังอยู่ ถ้าท่านไม่เลี้ยงดูตอนเราเป็นทารก ไม่ได้พาเราไปหาหมอตอนเราป่วย เราจะไม่อยู่ถึงขนาดนี้ ฉะนั้นแม้ว่าพ่อแม่จะตายไปแล้วก็ตาม แต่บุญคุณท่านยังค้างคาอยู่ บุญคุณเนี่ยยังมีปรากฏอยู่ ตราบเท่าที่เรายังมีชีวิตนี้อยู่ เพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่าพ่อแม่ตายแล้วเลิกกัน งานของลูกที่ทำต่อไปในคราวที่พ่อแม่ตายคือ ทำบุญอุทิศให้ กรณีที่พ่อแม่อาจจะพลาด ไปเกิดในอบาย ก็ยังมีโอกาสที่จะช่วยเหลือพ่อแม่ให้พ้นจากอบาย ด้วยการที่ทำบุญแล้วก็อุทิศให้พ่อแม่ พ่อแม่อนุโมทนาแล้ว ก็จะเปลี่ยนภพเปลี่ยนภูมิ ไปสู่สุคติ ท่านไปสู่สุคติแล้ว ก็ยังไม่หมด ไม่ใช่ว่าหมดธุระของเราแล้ว เราก็ยังต้องทำบุญให้ท่านดู ให้ท่านได้มั่นใจ ได้พอใจว่า เออ.. ลูกหลานที่อยู่ในโลกนี้ ยังเจริญรอยตามท่าน ยังทำดีจนเป็นที่หมดห่วงกังวล เพราะฉะนั้นถ้าลูกที่มีชีวิตอยู่ แล้วพ่อแม่ที่ตายไปแล้วเนี่ยบางทีก็ยังมีใจผูกพัน ถ้าลูกเกะกะระราน ทำตัวเป็นภาระสังคม พ่อแม่ที่อยู่บนสวรรค์ พอมองลูก..ก็ไม่สบายใจ ยังเป็นห่วงเป็นกังวล อย่างนี้ไม่ใช่เป็นการกตัญญูกตเวที เพราะฉะนั้นถ้าลูกที่ดี ควรจะทำการกตัญญูกตเวทีด้วยการประพฤติตนให้เป็นที่เบาใจของพ่อแม่ แม้ท่านตายไปแล้ว แล้วทำบุญอุทิศให้ท่านสม่ำเสมอ..สม่ำเสมอนะ ไม่ใช่แค่ทำตอนทำบุญ ๗ วัน แล้วก็เผา แล้วก็เลิกกัน ไม่ใช่แค่นั้น หรือว่า ๕๐ วัน แล้วมาทำอีกที แล้วพอ!.. ก็ไม่ใช่นะ ต้องหาโอกาสทำบุญสม่ำเสมอ ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เกิดบุญอะไรขึ้นมาครั้งใด ให้อุทิศส่วนกุศลให้พ่อแม่ด้วย นี่คือ บุพพการีในระดับครอบครัวเท่านั้น นอกจากนี้เมื่อมองในภาพกว้าง ในสังคมใหญ่ ๆ ในระดับสังคม ระดับประเทศ ยังมีผู้ที่เป็นบุพการีกับเราอีกมากมายเลย เรามีแผ่นดินอยู่ได้เพราะมีบรรพชน มีบุคคลที่เป็นบุพการีที่รักษาแผ่นดินนี้ไว้ พระมหากษัตริย์ทุก ๆ พระองค์ ทหารทุก ๆ คน บรรพบุรุษทุก ๆ ท่าน ที่ช่วยกันดูแลรักษาแผ่นดินนี้ไว้ ทำให้เรามีแผ่นดินอยู่ อย่างไม่ต้องเป็นทาสใคร อย่างไม่ต้องถูกกดข่ม หรือข่มเหงด้วยอำนาจของคนต่างชาติ ไม่เหมือนกับชาติอื่น ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือของต่างชาติ ประชาชนจะอยู่อย่างเป็นทุกข์มาก แต่เราเนี่ยอยู่อย่างสุขสบาย มีที่ดินอยู่อาศัย มีบ้านเมืองที่สงบร่มเย็น เป็นเพราะมีบรรพบุรุษผู้เป็นบุพการี ทำคุณแก่เราก่อน โดยที่เรายังไม่ได้ทำให้ท่านเลย เราจึงควรเป็นผู้กตัญญู คือรู้คุณของบุคคลผู้ที่รักษาแผ่นดินนี้ไว้ พระมหากษัตริย์ทุก ๆ พระองค์ บรรพบุรุษทุก ๆ ท่าน นอกจากจะรักษาแผ่นดินนี้แล้ว ยังรักษาศาสนาด้วย มีแผ่นดินอยู่แต่ถ้าไม่มีศาสนาเอาไว้พัฒนาจิตใจ ไม่รู้บุญรู้บาป ไม่รู้คุณรู้โทษ ไม่รู้จักวิธีพัฒนาจิตใจพัฒนาตน มันก็กลายเป็นว่า อยู่แบบเบียดเบียนกัน อยู่แบบใครมือยาวสาวได้สาวเอา คนไร้โอกาสก็ยิ่งไร้โอกาสมากขึ้น คนที่ได้โอกาสก็หาโอกาสได้มากขึ้น เบียดเบียนกันมากขึ้นอย่างนี้นะ สังคมแม้จะอยู่ได้ แต่ก็อยู่ด้วยการมีทุกข์มาก หลายสังคมเลยที่อยู่ด้วยการที่แต่ละฝ่ายเหยียดหยามกัน บางทีเหยียดหยามแค่เฉพาะสีผิว เนี่ย..ดูสิ! ของเราไม่มีเลย ไม่มีการเหยียดผิวกันเลย ไม่มีการเหยียดเชื้อชาติกันด้วย จะเป็นเชื้อแขก เชื้อไทย เชื้อจีน เชื้อญวน มาอยู่ในเมืองไทยนี้ เราเรียกว่าเป็นคนไทยทั้งหมด จึงเรียกว่า “ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย” เป็นเพราะบรรพบุรุษสร้างขนบประเพณี แล้วก็สร้างมาตรฐาน ในการอยู่ร่วมกันของคนไทยเอาไว้ บรรพบุรุษของเรามีพระคุณมาก มีศาสนาเป็นเครื่องค้ำชู มีแผ่นดินเป็นที่อยู่อาศัย เราระลึกถึงพระคุณของบุพการีเหล่านี้หรือยัง? ทำการกตัญญูหรือยัง? และกตเวทีหรือยัง? ..อย่าได้เป็นคน “อกตัญญู” ต้องเป็นคน “กตัญญู” ให้ได้ เมื่อเป็นผู้ที่ “กตัญญูกตเวที” ก็จะชื่อว่าเป็นคนดี และเป็น “บุคคลที่หาได้ยาก” อีกประเภทหนึ่ง ในเรื่องของ “บุคคลที่หาได้ยาก” ที่โยมถามมา ก็ตอบเท่านี้ก่อน พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล เรียบเรียงจากตอบปัญหาธรรม รายการธรรมะสว่างใจ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ลิงค์รายการ https://www.facebook.com/Watsanghathan.Nonthaburi/videos/2774644969522665 (นาทีที่ 1.43.40-1.51.45)

อ่านต่อ