#นิมฺมโลตอบโจทย์ #ปัตติทานมัย #ปัตตานุโมทนามัย ?? #ถาม : ถ้าคนเลี้ยงผีแบบพวกกุมารทอง ขวางโสดาบันไหมคะ? จัดในสีลัพพตปรามาสไหม? #ตอบ : เลี้ยงผีหรือ? จะนิยามคำว่า “เลี้ยงผี” ว่าอย่างไร? ถ้าเรานิยามคล้ายๆ กับว่า “อุทิศบุญ” .. เวลาเรามีของอะไร ของกินนะ สมมุติเรามีของกิน แล้วเราก็ตั้งใจแบ่งให้กับสรรพสัตว์ เคยมีครูบาอาจารย์ท่านใช้วิธีอย่างนี้ ท่านใช้วิธีว่า เวลามีอาหารมา ท่านจะเสกอาหารนั้นเป็นอีกชุดหนึ่ง ให้กับเหล่าโอปปาติกะที่ต้องการอาหาร ท่านก็ทำอย่างนี้ได้เหมือนกันนะ ..ที่ได้ยินมานะ มันขึ้นอยู่กับว่า… คำว่า “เลี้ยงผี” นี่เราจะให้ความหมายอย่างไร มันแปลกๆ เหมือนกัน มันจะจัดอยู่ในประเภทเลี้ยงเอาไว้เพื่อทำอะไร? คำว่า “เลี้ยงผี” เนี่ยส่วนใหญ่เหมือนกับว่า.. ต้องการให้ผีนั้นมาทำประโยชน์ให้กับเรา เหมือนกับหมอผี.. เลี้ยงผีเพื่อให้ผีนั้นมาทำประโยชน์ให้กับเรา ถ้าเลี้ยงผีลักษณะอย่างนี้นะ น่าจะไม่ใช่! แต่ถ้าเป็นการ… “เผื่อแผ่” ได้อาหารมาก็ ‘เผื่อแผ่กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย’ “สรรพสัตว์ทั้งหลาย” ในลักษณะของโอปปาติกะบางเหล่า บางพวกเนี่ย เขาต้องการอาหารที่เป็นรูปธรรมอย่างนี้ เห็นแล้วก็อยากกิน อยากจะได้ด้วย อย่างนี้ บางทีท่านก็ใช้วิธีเสก ให้มันเป็นหลายๆ ชุด แล้วก็ “เอ้า! เอาไปนะ ใครปรารถนาก็มารับไปนะ” ประมาณนี้นะ อันนี้ต้องบอกไว้ก่อนนะ “ที่ได้ยินมา” บางทีเราอาจจะไปได้ยินว่า.. ครูบาอาจารย์ท่านนั้น ใช้วิธีอย่างนี้ แล้วก็จะไปปรามาสท่าน ก็จะกลายเป็นว่า นึกว่า ‘ท่านเลี้ยงผีในลักษณะหมอผี’ ไม่ใช่อย่างนั้น!! อย่างนี้เป็นวิธีการที่เรียกว่า อาศัย “ความกรุณา” แล้วก็ให้เขาได้บรรเทาทุกข์ จากสถานะ หรืออัตภาพนั้น สภาวะนั้น ถามว่า “ขวางโสดาบันไหม?” มันก็ขึ้นอยู่กับ “เจตนา” ขึ้นอยู่กับเจตนาว่าจะเลี้ยง “เพื่ออะไร?” ถ้าต้องการให้เขามาเป็นบริวาร อย่างนี้น่าจะไม่ใช่!! ถ้าโยมจะต้องเป็นผู้เลี้ยงเองเนี่ย ขอแนะนำว่า.. สมมุติว่ารับกุมารทองมา เรามองกุมารทองนั้นว่าเป็นอย่างไร? เหมือนเป็นเทวดารับใช้เราหรือเปล่า? ถ้ามองในแง่นั้นเนี่ยนะ มันจะรู้สึกว่าดูไม่เหมาะเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเหมือนสรรพสัตว์ เราแผ่เมตตาเหมือนกับ กุมารทอง หรือใครก็ตาม เป็นหนึ่งในสรรพสัตว์ ที่เราจะแผ่เมตตาไปให้ ไม่ว่าเราจะมีบุญอะไร เราก็แผ่เมตตาไปให้ เขาก็เป็นหนึ่งในสรรพสัตว์ ที่สามารถรับได้ ไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องเลี้ยงใครเป็นพิเศษ อย่างนี้จะดีกว่า คล้ายๆ กับว่า เป็นการทำบุญของเราในแง่หนึ่ง มันมีบุญในแง่ว่า “ปัตติทานมัย-อุทิศส่วนกุศล” กับบุญในแง่ของ “ปัตตานุโมทนามัย-อนุโมทนาบุญกุศลของผู้อื่น” ที่เขาอุทิศมา เราทำบุญด้วยการอุทิศส่วนกุศล เฉลี่ยส่วนแห่งความดีให้แก่สรรพสัตว์ สรรพสัตว์ทั้งหลายก็ทำบุญด้วยการอนุโมทนา ยินดีในความดีของผู้อื่น ในคราวที่เราอุทิศส่วนกุศล เรามีบุญอะไร เราก็อุทิศส่วนกุศลไป เรามีบุญในแง่ของการให้ทาน .. ให้ทานเป็นอาหาร ให้ทานเป็นปัจจัย ๔ ทำแล้ว..เราก็อุทิศให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลายไป ใครรับรู้..อนุโมทนา ก็อนุโมทนาไป อย่างนี้นะ อย่างนี้น่าจะเหมาะกว่า พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล เรียบเรียงจากตอบปัญหาธรรม รายการธรรมะสว่างใจ ออกอากาศวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ลิงค์รายการ https://www.youtube.com/watch?v=EPmTbFz10Xw (นาทีที่ 1.40.55- 1.46.07)

อ่านต่อ