#นิมฺมโลตอบโจทย์ #ตั้งเป้าหมายบรรลุโสดาบัน #ถาม : ถ้าเราตั้งเป้าหมายว่า “เราจะบรรลุโสดาบัน” ได้ไหมครับ? เพราะผมเคยได้ยินมาว่า “ห้ามหวัง ถ้าจะบรรลุ เดี๋ยวเราจะรู้เอง” #ตอบ : คือ การตั้งเป้าหมาย..ตั้งได้ แล้วก็ควรตั้งด้วย คงยากที่จะไม่ตั้งเป้าหมาย หายากนะ ส่วนใหญ่แล้วนักปฏิบัติทั้งหลาย ก็จะตั้งเป้าหมายเอาไว้ แต่ว่าที่เคยได้ยินมาว่า “ห้ามหวัง” ก็คือว่า ในระหว่างที่ปฏิบัติ อย่ามัวแต่คิดว่า ‘จะเป็นโสดาบัน’ มันจะ “เอาแต่คิด” ..อย่างนี้ไม่ได้นะ ถ้าตั้งเป้าหมาย..แล้วทำเหตุ หรือว่าไปศึกษาว่า จะทำเหตุอะไร จะให้ถึงเป้าหมายนั้น แล้วลงมือทำเหตุ อย่างนี้มันจึงจะได้ คือ ตั้งเป้าหมายว่า “จะบรรลุโสดาบัน” การเป็นโสดาบันนั้น.. – สภาวะเป็นอย่างไร? – ท่านละกิเลสตัวไหน? หรือ – ละสังโยชน์ตัวไหนได้บ้าง? ละสังโยชน์สำคัญ ๆ ก็คือ ละ “สักกายทิฏฐิ” จะเห็นว่า “กายนี้ใจนี้ไม่ใช่เรา” รู้ว่าเป้าหมายเบื้องต้นไปทางนี้ ..จะฝึกอย่างไร? จะฝึกตนอย่างไรให้บรรลุโสดาบัน? ก็ไปหาเหตุ ..หาเองไม่ได้แน่ ๆ ก็ต้องไปสืบหาว่า พระพุทธเจ้าสอนว่าอย่างไร? ครูบาอาจารย์ที่ท่านปฏิบัติ ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า มีบ้างไหมในยุคนี้? ถ้ามี..ไปศึกษากับท่าน ศึกษาทั้งในแง่ของ ปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ ปริยัติ คือเราก็ต้องไม่ทิ้ง ศึกษาว่า พระพุทธเจ้าสอนอะไร? ก็ต้องไปศึกษาดู ศึกษาจากในคัมภีร์ ถ้ามีโอกาสศึกษา.. ยุคนี้ก็น่าจะง่ายขึ้นนะ ในการเข้าถึงพระไตรปิฎก น่าจะง่ายขึ้น แล้วก็ ถ้าศึกษา..แล้วเข้าใจ สามารถทำตามในพระคัมภีร์ได้ ก็ทำไปเลยนะ แต่ถ้าอ่านแล้วงง สงสัยจุดไหนก็ตาม ก็ไปหาครูบาอาจารย์สอบถาม ยิ่งถ้าเป็นครูบาอาจารย์ ที่ท่านมีประสบการณ์จริง จากการฝึกปฏิบัติ มันก็จะเป็นประโยชน์ กับการศึกษาของเรา เพราะการมีประสบการณ์ .. เวลาท่านแนะนำ ท่านก็จะแนะนำได้ตรง ยิ่งถ้าท่านมีความสามารถ ในการที่จะรู้ว่าเราติดขัดตรงไหน สามารถอธิบายแจ่มแจ้ง ให้เราพ้นจากจุดติดขัดนั้นได้ ก็จะยิ่งดีมากนะ ก็เรียกว่า เราจะได้รับผลของการปฏิบัติ แม้จะยังไม่ถึงได้ขั้นโสดาบัน แต่มันจะพัฒนาขึ้นมา จากไม่เคยสงบ ..ก็สงบ จากไม่เคยรักษาศีลได้ ..ก็รักษาศีลได้ขึ้นมา จากที่ติดขัด ..ก็หลุดออกมาเป็นเปราะ ๆ มันจะมีศรัทธาเกิดขึ้น แล้วสามารถทำเหตุ ให้บรรลุมรรคผล ตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ได้ ที่ไม่เคยรักษาวินัยได้ .. ไม่เคยรักษาศีลได้ .. ก็จะรักษาศีล มีวินัย เพราะมีเป้าหมายเอาไว้ มันเป็นกำลังใจ เขาเรียกว่า “มีเป้าหมาย..แล้วเดินไปให้ถึง” มันเหมือนเป้าที่ฝัน แต่อย่ามัวเอาแต่ฝัน การที่มัวแต่หวัง มันก็เหมือนเอาแต่ฝัน แล้วไม่ทำเหตุนะ ฝันแล้วไม่ทำเหตุ มันก็ไม่สมหวัง มันก็ได้แต่ฝัน แต่ว่า มีเป้าหมายที่หวังไว้ แล้วไปศึกษาว่า จะต้องทำเหตุอะไรให้ถึงเป้าหมายนั้น แล้วลงมือทำ ..อย่างนี้ได้ การตั้งเป้าหมายไม่ผิดนะ ในมงคลสูตรจะมีคำว่า “อัตตสัมมาปณิธิ” แปลว่า ตั้งตนไว้ชอบ คือ ตั้งเป้าหมายเอาไว้นั่นเอง มีการตั้งเป้าหมายเอาไว้ ถ้าไม่ตั้งเป้าหมาย มันก็จะไม่รู้จะไปทำอะไร เหมือนซังกะตาย มันไม่มีเป้าหมาย คนไม่รู้จะทำอะไร อยู่ไปวัน ๆ มันไม่เหมือนกับผู้บรรลุขั้นสุดท้ายแล้ว คนฝึกตนจนเป็นพระอรหันต์แล้ว ไม่ต้องไปฝึกอะไรต่อแล้ว จบแล้ว บรรลุเป้าหมายแล้ว คือถึงที่แล้ว ไม่ต้องหวัง ไม่ต้องคาดหวังอะไรแล้ว เพราะสมหวังแล้ว มันไม่มีอะไรที่จะต้องคาดหวังต่อไป แต่คนที่ยังหวังอยู่ ก็ต้องคอยดูว่า “สิ่งที่เป็นเหตุให้ถึงความสมหวังนั้น” คืออะไร? ก็ต้องหวังอยู่นะ เพราะเรายังมีทุกข์อยู่ ก็ต้องหวังว่า จะต้องให้ ‘พ้นทุกข์’ นั่นล่ะ มันก็มีขั้นของการพ้นทุกข์ เป็นลำดับ ๆ ไป ขั้นต้นก็คือ “เป็นพระโสดาบัน” หวังได้นะ ตั้งเป้าหมายได้ พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล เรียบเรียงจากตอบปัญหาธรรม รายการธรรมะสว่างใจ ออกอากาศวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๕ ลิงค์รายการ https://www.youtube.com/watch?v=m520RAKdFFM&t=3259s (นาทีที่ 48.52 – 54.18)

อ่านต่อ