#นิมฺมโลตอบโจทย์ ๑๔๙
??
#ถาม : เราควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรครับ เวลาที่ใจมันคิดในสิ่งที่ไม่ดี ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้มีเจตนาอยากจะคิดเช่นนั้น ที่ผ่านมาเหมือนว่ายิ่งเราคอยไปบังคับใจเราไม่ให้คิดไม่ดี ใจเรากลับจะยิ่งคิดไม่ดีมากขึ้น การที่เราคิดในสิ่งที่ไม่ดีโดยที่เราไม่ได้มีเจตนาอยากจะคิดเช่นนั้น ถือว่าเป็นการทำบาปหรือเปล่าครับ?
#ตอบ : มันคิดไม่ดี..มันก็คิดกับมันเอง ก็พิจารณาไปเลยนะ “ว่ามันเป็นอนัตตา เราบังคับจิตไม่ได้ จิตไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา”
แต่ก็ฝึกจิตได้!
แทนที่จะให้จิตคิดเรื่องไม่ดีไปนานๆ ก็หาเรื่องดีๆให้จิตคิดไปเลย
เช่น คิดถึงคุณของพระพุทธเจ้า คิดถึงคุณของพระธรรม คิดถึงคุณของพระสงฆ์ เป็นต้น ตรงนี้ก็เป็นการทำกรรมฐาน เรียกว่า เจริญพุทธานุสติ เจริญธัมมานุสติ เจริญสังฆานุสสติ เป็นต้น
หรือถ้าทำในรูปแบบ จะใช้บทสวดมนต์ เช่นบท “อิติปิ โสฯ” ก็ได้ สวดมนต์ไป ใช้บทสวดมนต์เป็นที่อยู่ของจิต สวดไปเผลอคิด ก็รู้ว่าเผลอ
หรือถ้าทำงานอะไรอยู่ ก็ให้งานนั้นเป็นที่อยู่ของจิตก็ได้ จิตเผลอไปคิดเรื่องอื่นที่นอกจากงาน ก็รู้ว่าเผลอ
หลักการคือ หาเครื่องอยู่เอาไว้ เผลอไปก็รู้ทันว่าเผลอ แต่ไม่ห้ามว่าอย่าเผลอ ให้เผลอแล้วรู้ อย่างน้อยก็อาศัยความเผลอนั้นเจริญสติไปเลย
บางทีเผลอไปคิด แล้วมันไปคิดไม่ดี ไม่พอใจความเผลอนั้น ก็ให้รู้ว่ามีโทสะเกิดขึ้น
บางทีจะเห็นว่า จิตมันไหลไปในความคิด ก็รู้จิตมันเคลื่อนไป ถ้าเห็นอย่างนี้ได้ก็ยิ่งดี
หลักอีกอย่างคือ ให้ยอมรับความจริง มันเผลอไปคิดจริงๆ ก็ยอมรับซื่อๆ ว่าเผลอไป จะคิดดีหรือคิดร้าย ก็รวมเรียกว่าเผลอทั้งหมด
อย่าไปคิดบังคับจิตนะ ไม่สำเร็จหรอก
มีเครื่องอยู่ของจิตเพื่อรู้ทันจิต ไม่ใช่เพื่อขังจิตให้อยู่นิ่งๆนะ
๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒
อ่านบน Facebook