#นิมฺมโลตอบโจทย์ ๑๕๒ ?? #ถาม​ : ทำอย่างไรให้คนที่ไม่เชื่อในบาปบุญมาเชื่อได้? #ตอบ​ : เบื้องต้น​…

#นิมฺมโลตอบโจทย์ ๑๕๒
??
#ถาม​ : ทำอย่างไรให้คนที่ไม่เชื่อในบาปบุญมาเชื่อได้?

#ตอบ​ : เบื้องต้น​ ควร​เลี่ยง​คน​พาล​ ควร​คบ​บัณฑิต
ให้​เข้าหา​บัณฑิต​ มาพููด​คุยสนทนา​ เพื่อ​รับ​ข้อมูล​ที่​ถูกต้อง​ เพื่อ​รู้จัก​และ​ยอมรับ​ความ​เป็น​เหตุ​เป็น​ผล​ของ​ธรรมชาติ

โดย​ธรรมชาติ​ ทำ​ดี​ย่อม​ได้​ดี​ เหมือนกับ​ปลูก​พืช​อะไร​ก็​ย่อม​ได้​รับ​ผล​ของ​พืช​นั้น​ ปลูก​กล้วย​ต้น​กล้วย​ก็​ย่อม​ออก​ลูก​เป็น​กล้วย​ ไม่​เป็น​อย่างอื่น​ไป​ได้​ ปลูก​ต้นมะม่วง​ก็​ย่อม​ออก​ลูก​เป็น​มะม่วง​ อย่างนี้​เป็น​ต้น

การ​ที่​ได้​รับ​ทุกข์ทรมาน​ ไม่​น่า​ยินดี ก็​ย่อม​เป็น​ผล​จาก​บาป
การ​ได้​รับ​ความ​สุข​สบาย​ น่า​ยินดี​ ก็​ย่อม​เป็น​ผล​มา​จาก​บุญ

คบ​คน​พาล​ ก็​ชวน​กัน​ทำ​ความ​เดือดร้อน​ให้​กับ​สังคม​ ชวน​กัน​เบียดเบียน​ผู้​อื่น​เพื่อ​หา​ผล​ประโยชน์​ใส่​ตัว​และ​พวกพ้อง​ เรียก​รวม​ๆ​ว่า​ทำ​บาป​ แรก​ๆ​อาจจะ​ได้​ทรัพย์สิน​โดย​ง่าย​ เมื่อ​บาป​ยัง​ไม่​ให้​ผล​ก็​ย่ามใจ​ทำ​บาป​ต่อ​ แต่​นั่น​คือ​การ​สร้าง​เหตุ​ที่​ชั่ว​ไว้​แล้ว​ ก็​ย่อม​ได้​รับ​ผล​ชั่ว​แน่นอน​ แต่​อาจจะ​ไม่​รวดเร็วทันใจ​กอง​แช่ง​ทั้งหลาย

เรื่อง​บุญ​บาป​ บางที​ดู​ชาติ​เดียว​อาจจะยัง​ไม่​ชัด​เจน​พอ​ สอง​ชาติ​ก็​อาจจะ​ยัง​เข้าใจ​ผิด​ อย่าง​เช่น​ใน​เรื่อง​ ​”นารทชาดก​”
พระเจ้าอังคติ​ราช​เสด็จ​ไป​ฟัง​ธรรม​จากชีเปลือยรูปหนึ่งนามว่า คุณาชีวก ซึ่ง​สอน​ว่า​ “ไม่มีบิดามารดา อาจารย์ บุตร หรือภรรยา มนุษย์และสัตว์เกิดมาเท่าเทียมกัน บุญหรือบาปนั้นไม่มีจริง เมื่อตายไปร่างกายก็แตกสลายดับไปพร้อมทุกข์และสุข ใครจะทำร้ายใครก็ไม่ถือว่าเป็นบาป ทั้งสัตว์และมนุษย์เมื่อเกิดมาครบ 84 กัป ก็จะสามารถพ้นจากทุกข์ไปได้เอง ไม่ว่าจะทำบุญหรือบาปเท่าไรหากไม่ครบ 84 กัป ก็ไม่อาจพ้นทุกข์ไปได้”
ขณะนั้นเอง อลาตะเสนาบดีผู้ระลึกชาติได้ก็กล่าวรับสมอ้างคุณาชีวกว่า” จริงอย่างท่านอาจารย์ว่า ข้าพเจ้าเองเมื่อชาติก่อนเป็นคนฆ่าโค ชื่อปิงคละ ข้าพเจ้าฆ่าโคเสียไม่รู้ว่ากี่ร้อยกี่พันตัว​ ตายจากชาตินั้นมาเกิดในตระกูลเสนาบดี ได้เสวยสุขจนกระทั่งบัดนี้ ถ้านรกมีจริงข้าพเจ้าคงไปเกิดไปเกิดในนรกแล้ว ไม่ได้มาเกิดเป็นเสนาบดีดังนี้ ผลบาปต้องไม่มีแน่ ๆ ข้าพเจ้าจึงเกิดมาดังนี้”

เวลานั้น มีบุรุษยากจนคนหนึ่งชื่อ วิชกะ นั่งฟังอยู่ด้วยเขารับได้ฟังคำของอลาตะเสนาบดีแล้วอดใจอยู่ไม่ได้ ถึงกับน้ำตาไหลออกมานองหน้า พระเจ้าอังคติราชเห็นเข้าก็ให้ประหลาดพระทัยจึงตรัสถามว่า

“เจ้าวิชกะ เจ้าร้องไห้ทำไม ?”

“ขอเดชะ เพราะข้าพระพุทธเจ้าระลึกชาติได้ว่าเมื่อชาติก่อนข้าพระพุทธเจ้าเป็นเศรษฐี มีจิตใจบุญ จำแนกแจกทานทานแก่สมณชีพราหมณ์และยาจกวณิพกตลอดมา แต่เมื่อตายแล้วแทนที่จะไปสวรรค์ กลับต้องมาเกิดในตระกูลจัณฑาล​ ได้รับรับความลำบากยากเข็ญอยู่ในบัดนี้ เพราะฉะนั้นที่ท่านอลาตะกล่าวว่าบุญไม่มีผล บาปไม่มีผล​นั้น​ เป็นความจริงแน่นนอน ถ้ามิฉะนั้นแล้วกระหม่อมฉันจะตกระกำลำบากไม่ได้”

พระเจ้า​อังคติราช​เห็น​ว่า​มี​พยาน​พร้อม​อย่าง​นี้​จึง​เชื่อ​ชี​เปลือย​อย่าง​เต็มที่​ เสด็จ​กลับ​วัง​ทันที​ ไม่​ทำบุญ​กับ​ชีเปลือย​นั้น​ด้วย​
นับแต่นั้นมาก็ปล่อยพระองค์ตกอยู่ในความสุขสนุกสนานเพลิดเพลินกับสุรานารีดนตรีอบายมุขไปตามเรื่อง กิจราชการน้อยใหญ่มอบให้เป็นธุระของอำมาตย์ผู้ใหญ่​ ๓ คน​ ศาลาโรงทานที่เคยได้ตั้งไว้ ก็ตรัสให้เลิกทั้งหมด เพราะไม่มีผลจะทำไปทำไม ผลบุญทานก็ไม่มี หาความสุขดีกว่า สุรา นารี เออมันช่างแสนสุขสำราญเสียจริง ๆ

ที่จริง​ อลาตะเสนาบดี​นั้น ชาติ​ก่อน​ๆ​นั้น​ไป​อีก​เขา​ได้เกิดในสมัยพระกัสสปพุทธเจ้า ได้บูชาพระเจดีย์ด้วยพวงอังกาบพวงหนึ่ง ตายจากชาตินั้นแล้วได้ท่องเที่ยวไป ๆ มา จนเกิดเป็นปิงคละ และด้วยอานิสงส์ได้บูชาพระเจดีย์ จึงได้ไปเกิดเป็นเสนาบดี แต่เพราะแกระลึกชาติได้เพียงชาติเดียว จึงเห็นว่าคนฆ่าสัตว์มากมายแต่กลับได้เสวยความสุข จึงทำให้เข้าใจผิดไปว่าแกทำบาปแต่กลับได้ดี อันผิดวิสัยความจริง​

ส่วน​นาย​วิชกะ​ ชาติ​ก่อน​ๆนั้น เขา​ได้เกิดเป็นคนเลี้ยงโค และได้ติดตามโคไป​ บังเอิญพบพระหลงทาง​รูปหนึ่ง ท่านก็เข้ามาถามหนทาง แต่เพราะเขากำลังขุ่นใจเรื่องตามโค จึงไม่ตอบท่าน ท่าน​ก็เข้าใจว่าเขาไม่ได้ยิน​ เลยถามอีก เขา​ยิ่ง​หงุดหงิด​ก็ตวาดไปว่า
“พระขี้ข้าอะไร​ ปาก​แข็ง​จริง ถามเซ้าซี้น่ารำคาญ”
เพราะกรรมนี้เองจึงทำให้เขาเกิดในตระกูลจัณฑาล แต่เพราะเขาระลึกชาติไปไม่ถึง​ จึงเห็นเพียงชาติที่​เขาเป็นเศรษฐีเท่านั้น

จะ​เห็น​ได้​ว่า​เวลาเพียง​ ๒ ชาติ​ก็​ใช่​ว่า​จะเพียงพอ​สำหรับ​คน​พาล​ที่​จะ​ทำ​ความ​เข้าใจ​เรื่อง​บาป​บุญ​ได้

ฉะนั้น​ เมื่อ​เรา​ได้​พยายาม​ช่วย​อธิบาย​แล้ว​ แต่​เขา​ไม่​รับฟัง​ ยัง​ยืนยัน​ความ​เชื่อ​เดิม​ บางที​ก็​ต้อง​วาง​ใจ​อุเบกขา​

(สำหรับพระ​เจ้า​อังคติ​ราช​นั้น​ ต่อมา​ก็ได้​รับ​การ​แก้​ทิฏฐิ​โดยพระ​โพธิสัตว์​ ผู้​เสวยพระชาติ​เป็นมหา​พรหม​นารท)​

๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒


อ่านบน Facebook