#นิมฺมโลตอบโจทย์ ๒๖๐ #การอุทิศให้ผู้ตาย ?? #ถาม : สามีของโยมเพิ่งเสียไป โยมจะกรวดน้ำให้เฉพาะสามี ซึ่งปกติก็จะกรวดน้ำให้พ่อแม่อะไรอย่างนี้นะคะ เราจะรวมกันเลยได้ไหมคะเนี่ย? #ตอบ : จะรวมก็ได้ เฉพาะก็ได้ สมมุติว่า คราวนี้ต้องการเจาะจงให้สามี ก็ทุ่มให้สามีเต็มที่ตอนนี้..อย่างนี้ก็ได้ เช่นว่า งานนี้เฉพาะสามี เราก็เจาะจงไปเลยว่า งานนี้ ที่ทำบุญมาทั้งหมดนี้นะ..ขออุทิศให้สามี แต่ถ้าเราคิดจะเผื่อไปถึงคนอื่นด้วยก็ได้..ไม่ผิด จะเอ่ยชื่อสามีขึ้นมาก่อน แล้วค่อยอุทิศขยายรวมทั้งคุณพ่อคุณแม่ ปู่ย่าตายาย อย่างนี้ก็ได้ เพราะว่าบุญนี้อุทิศไปได้..ไม่จำกัด มันไม่ใช่ว่า มีข้าวอยู่จานเดียว แล้วเรียกสามีมากินข้าวจานนี้..ไม่ใช่อย่างนั้นนะ บุญ คือ ได้เอาข้าวจานนี้ไปถวายพระ แล้วอาการถวายหรือให้ทาน.. เรียกว่าเป็นบุญ เกิดบุญขึ้นมาแล้ว..ก็อุทิศบุญ อุทิศความปลื้มใจ ความปีติใจที่ได้ถวายอาหารให้กับพระเนี่ยนะ ให้กับใครก็ได้แล้วคราวนี้ ให้กับสามีก็ได้ ให้กับพ่อ ให้กับแม่ ให้กับปู่ย่าตายายได้หมดเลย เพราะว่าความปลื้มใจปิติใจเนี่ย..ไม่จำกัด มันเป็นอนันต์ คนที่มาดีใจด้วยเนี่ย..ก็ไม่จำกัด สมมุติว่า อาตมาถวายของให้พระ ถวายไปแล้วอาตมาก็ดีใจปลื้มใจ คนที่จะมาดีใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้..ก็ไม่จำกัด ไม่ใช่ว่าจะดีใจได้คนเดียว ใช่มั้ย? อาการดีใจที่ผู้อื่นกระทำบุญ เรียกว่า อนุโมทนาบุญ ฉะนั้น การอนุโมทนาเนี่ย..สามีก็อนุโมทนาได้ พ่ออนุโมทนาได้ แม่ก็อนุโมทนาได้ ปู่ย่าตายายก็อนุโมทนาได้ แม้ผู้ที่จำไม่ได้แล้วว่าเกี่ยวข้องเป็นญาติกันตั้งแต่ครั้งไหน ถ้าเห็นแล้วดีใจด้วย..ก็เรียกว่าอนุโมทนา นึกออกไหม? แล้วถ้าเราไม่จำกัดว่าเฉพาะใคร..ใครก็ได้ “สรรพสัตว์ทั้งหลาย”จงมาอนุโมทนา ถ้าเกิดการอนุโมทนาของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ก็เรียกว่า เกิดการทำบุญครั้งใหญ่ ก็คือ มีการอนุโมทนาร่วมกันมากมายในครั้งนั้น ถ้าเราไม่จำกัดผู้รับเนี่ยนะ..ผู้ที่จะรับหรือผู้ที่จะมาอนุโมทนาก็จะไม่จำกัดไปด้วย การที่จะเกิดบุญ คืออนุโมทนาบุญครั้งใหญ่ก็จะเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเกรงว่าถ้าพูดหลาย ๆ คนไปเนี่ย บุญจะไม่เจาะจง..ก็เอ่ยถึงคนเดียวก็ได้ ไม่ห้าม แต่ถ้าเอ่ยถึงหลาย ๆ คน..ก็ดีเหมือนกัน การอนุโมทนาเนี่ยนะ ให้นึกอย่างนี้ว่า การทำบุญเนี่ย..เปรียบเหมือนวัตถุก้อนหนึ่ง เป็นบุญก้อนหนึ่ง การที่จะอุทิศให้ผู้อื่น..เป็นบุญอีกก้อนหนึ่ง จิตที่คิดจะอนุโมทนา..ก็เป็นบุญอีกก้อนหนึ่ง เราทำบุญแล้ว เช่น ให้ทานเนี่ยนะ เปรียบเป็นบุญก้อนหนึ่งแล้วนะ ถ้าจะอุทิศให้ใคร? ใจที่จะเผื่อแผ่เนี่ย..เป็นใจอีกดวงหนึ่ง ก็เปรียบเป็นบุญอีกก้อนหนึ่ง แต่อาศัยว่าเคยมีบุญก้อนแรกเกิดขึ้น แล้วอยากจะเอาบุญอันนี้ไปเผื่อแผ่คนอื่น การคิดว่าจะเอาบุญก้อนแรก ไปเผื่อแผ่คนอื่น..เป็นบุญอันใหม่ ส่วนคนที่จะมาอนุโมทนา..เขาต้องมีใจเป็นบุญของเขาเอง ใจที่เป็นบุญของเขา..ก็คือ พลอยยินดีกับการกระทำที่เป็นบุญก้อนแรก พร้อมทั้งดีใจที่เราอุทิศให้ คือดีใจกับบุญก้อนที่สองด้วย จะเห็นได้ว่า ความยินดีนั้นจะสมบูรณ์ ก็ต่อเมื่อ..เราคิดเผื่อแผ่ด้วย หากเราทำบุญแล้ว… ถ้ามีเปรตมารอดู แล้วเราไม่เอ่ยชื่อเขา หรือไม่คิดอุทิศให้เขาเนี่ย..เขาจะรู้สึกว่า บุญนี้เขาไม่มีส่วนร่วมด้วย นี่ในกรณีถ้าเป็นเปรตนะ! แต่ถ้าเป็นคน คนเห็นแล้วดีใจ..เขาได้บุญเลย!เพราะเห็นอยู่เอง ถ้าพ่อแม่อยู่ที่บ้าน การทำบุญเกิดขึ้นที่นี่ พ่อแม่ไม่รู้..ก็ไปบอกเล่าให้ท่านทราบ ไม่ใช่จุดธูปที่นี่อุทิศไปให้ท่านนะ เข้าใจไหม? คือพ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่เนี่ยนะ ต้องไปบอกท่าน ว่าเราทำอะไรไป..ไม่ใช่อุทิศในใจให้พ่อแม่ที่อยู่ที่บ้าน อย่างนี้ท่านไม่รู้ ท่านก็ไม่มีโอกาสอนุโมทนา ต้องให้ท่านรู้..มันถึงจะถูกต้อง แต่ถ้าผู้ที่เราต้องการอุทิศให้เนี่ย..เขาเป็นเปรต เขามีความเดือดร้อนอยู่ เขามีความทุกข์ที่เกิดจากอกุศลที่เขาเคยทำ กำลังเสวยวิบากอยู่นี่นะ วิธีช่วยง่าย ๆ เลย คือ ทำบุญ..แล้วตั้งใจอุทิศให้กับคนชื่อนั้น ๆ ที่เคยเป็นญาติเรา ที่เคยเป็นมิตรกับเรานะ..อุทิศให้เขาไป เขาก็จะมีโอกาสระลึกได้ว่า “อ้าว! ญาติทำบุญ..แล้วอุทิศให้เราอยู่” มันเหมือนเป็นการเรียกชื่อกัน “นี่! มาดีใจกับงานครั้งนี้นะ” “เขาเรียกเราหรอ?”..ก็มาดู “โอ้! เขาทำบุญครั้งนี้ แล้วให้เรามีส่วนในครั้งนี้ด้วย เขาให้เกียรติเรา เรียกเราเข้ามาร่วมในการทำบุญในครั้งนี้ด้วย ดีจัง” ..เหมือนเขาได้ร่วมพิธี แล้วยิ่งมีการเอ่ยชื่อด้วย..จะดีใจมาก ฉะนั้น ถ้ารู้จักชื่อ..ให้เอ่ยชื่อ ถ้าไม่รู้จักชื่อ..ให้นึกถึงหน้า ถ้าไม่รู้จักชื่อ ไม่รู้จักหน้า..เช่นได้ยินเสียงกุกๆ กักๆ แล้วก็สงสัยว่า “เอ๊ะ! นี่คือใคร? เขาต้องการบุญหรือเปล่า?” ..จะอุทิศให้กับเจ้าของเสียงนั้นก็ได้ พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล เรียบเรียงจากการตอบปัญหาธรรม ในรายการ “ธรรมะสว่างใจ” วันที่ ๕ กุมพาพันธ์ ๒๕๖๓ ลิงค์วีดีโอ https://youtu.be/IVHtM5DrZG4 (นาทีที่ 1:57:27 - 2:00:40) Shortlink: March 29, 2020นิมฺมโลตอบโจทย์admin อ่านต่อFacebookTwitterLine