วันศุกร์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๓ วันพระ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ☘️☘️☘️ พระกฤช #ฝากคิด #ฝากคำ #ทำใจให้เบิกบาน จะมีกระบวนธรรมอยู่กระบวนหนึ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสบ่อย ๆ นั่นคือ ปราโมทย์, ปีติ, ปัสสัทธิ, สุข, สมาธิ คือเป็นกระบวนธรรม ที่ว่าโดยละเอียด จะมี ๕ อย่างไล่ลำดับกันมา ส่งผลต่อกันจนถึงสมาธิ ใจที่เป็น “ปราโมทย์” คือมีใจเบิกบาน “ปีติ” ก็คือมีความอิ่มใจ บางทีอาจจะเป็นซาบซ่าน ซาบซ่านไม่จำเป็นเท่าไหร่ จริง ๆ คืออิ่มใจ ปีติบางอย่างเป็นซาบซ่านเนี่ยนะ! ให้ซาบซ่านมันเหนื่อย ต้องมี “ปัสสัทธิ” คือเป็นความสงบ ระงับในความซาบซ่านของปีติ สงบระงับลงไป เขาเรียกว่าเป็นความผ่อนคลาย ปัสสัทธิ แปลง่าย ๆ ว่า ผ่อนคลาย แล้วจึงมี “สุข” พอมีสุขแล้วเนี่ย จิตมันจะอยู่กับอารมณ์นั้นได้นาน ๆ ก็เป็น “สมาธิ” ดังนั้น เวลาเรารับรู้อยู่กับโลกนี่นะ! หัดทำใจให้เบิกบาน อย่าไปเครียด ยุคนี้ เป็นยุคที่คนเครียดง่าย พอเครียดแล้วไม่รู้สึกตัวเนี่ยนะ ก็จะแสดงออกไปทางวาจา ออกไปทางวาจาแบบตรง ๆ บ้าง ออกไปแบบกด ๆ จิ้ม ๆ บ้าง (สื่อโซเซียล) ก็เป็นคำร้าย ๆ บางทีแสดงออกไป คนรับไม่ได้ ก็ทัวร์ลง! ทัวร์ลง! (ทัวร์ลง แปลว่า โดนรุมด่า โดนถล่มในโลกโซเซียล) นึกถึงทัวร์ลง!..ก็เตือนให้ระวัง ถ้าใช้สื่อ โดยเฉพาะสื่อที่เขารับรู้กันเยอะๆ เนี่ย ถ้าเป็นคำพูดดีๆ ก็ดีไป ถ้าเป็นคำพูดที่ไม่ดี เขาไม่ชอบใจ เขาก็จะมารุมประณามเรา ไอ้ตอนรุมประณามเนี่ย วิบากเกิดแล้ว เราก็รับผลที่เกิดจากวาจาที่ไม่ดี อย่างนี้ ต้องปรับทัศนคติของเราใหม่ เวลาจะอยู่กับโลกเนี่ย มองโลกด้วยใจเบิกบานบ้าง หรือถ้าเบิกบานไม่ได้ ก็ให้รู้ทันใจที่มันขัด..ขัดใจ มีความโกรธ มีความเกลียดอะไรขึ้นมา.. ให้รู้ทันตรงนี้ อย่าไปแสดงออก ทั้ง ๆ ที่ยังมีกิเลสตัวนี้อยู่ เพราะมันจะพลาด แสดงว่า..ขาดสติ! ขาดสติในการมีกายกรรม วจีกรรม เพราะว่ามีมโนกรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นมาแล้วไม่ทันเห็นมัน ก็คือ ขาดสติ ไม่มีสติรู้จิต..นั่นเอง ธรรมบรรยายโดย พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล เรียบเรียงจากการบรรยายธรรม ที่บ้านจิตสบาย มาทำสมาธิกัน (630830) ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๓ ลิงค์ยูทูป https://www.youtube.com/watch?v=30EzQ5-HRxo&t=4064s (ระหว่าง นาทีที่ 38:06-41:13)

อ่านต่อ