All posts by admin

#ปฏิทินธรรม #เดือนพฤศจิกายน 2561 กำหนดการแสดงพระธรรมเทศนา พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล (สวนธรรมประสานสุข…

#ปฏิทินธรรม #เดือนพฤศจิกายน 2561
กำหนดการแสดงพระธรรมเทศนา
พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล
(สวนธรรมประสานสุข อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี)

?วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน 2561
เวลา 12.00 – 13.00 น.
บรรยายธรรม ณ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ( PTTEP )
เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
ในหัวข้อ “คำสอนในพระพุทธศาสนา”
จัดโดย #ชมรมรักษ์ธรรม

(แผนที่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม
https://goo.gl/maps/qjbRtKtnEuT2 )

?วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน 2561
เวลา 07.00 – 08.00 น.
ร่วมงานทอดกฐิน ณ #วัดหนองโบสถ์
ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง

(แผนที่ วัดหนองโบสถ์
https://goo.gl/maps/eNAWE7monXw

?วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน
เวลา 15.30 – 17.00 น.
บรรยายธรรมใน คอร์สปฏิบัติธรรม
ณ ECO HOTEL by Thammasat, อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
จัดโดย #กลุ่มจิตหนึ่ง

(แผนที่ ECO HOTEL by Thammasat
https://goo.gl/maps/zRNX79bmedC2 )

?วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน 2561
เวลา 14.00 – 15.00 น.
บรรยายธรรม ณ ห้องสัมมนา #ฐณิชาฌ์รีสอร์ท
อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 034-751942 , 062-324 2915

(แผนที่ ฐณิชาฌ์ เฮลท์ตี้ รีสอร์ท
https://goo.gl/maps/mjx4kqh7nZP2

?วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน 2561
เวลา 08.00 – 16.30 น.
บรรยายธรรม ในหัวข้อ “คนรู้ใจ”
ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมทองธารา
ถ.เจริญกรุง บางคอแหลม คลองสาน กรุงเทพ ฯ
จัดโดย #รายการคลิกใจให้ธรรม

#คลิกลิงค์นี้เท่านั้น เพื่อลงทะเบียนฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ >>> https://goo.gl/zA99h7
(เจ้าภาพขอรับลงทะเบียนทางออนไลน์เท่านั้นนะคะ)
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 064-142 2546

(แผนที่ รร.ทองธาราทองธารา
https://goo.gl/maps/Q9ggHWEtbjm )

?วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน 2561
เวลา 10.00 – 11.30 น.
บรรยายธรรม ณ ศาลาไตรสิกขา #บ้านจิตสบาย
พุทธมณฑลสาย 2 ซ.สุขาภิบาลบางระมาด กรุงเทพฯ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-448 3392

( แผนที่ บ้านจิตสบาย https://goo.gl/maps/8p9PGTgvwE42)

?วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน –
วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2561

บรรยายธรรม ใน #คอร์สปฏิบัติธรรมชาวต่างชาติ (จีน)
ณ ECO HOTEL by Thammasat, อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

(แผนที่ ECO HOTEL by Thammasat
https://goo.gl/maps/zRNX79bmedC2 )

สามารถติดตาม ‘ปฏิทินธรรม นิมฺมโล’ ได้ที่
https://nimmalo.com/calendar/


อ่านบน Facebook

วันพุธที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๑ วันพระ​ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ (วันปวารณา​ ออกพรรษา) ?? พระกฤช #ฝากคิด…

วันพุธที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๑
วันพระ​ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑
(วันปวารณา​ ออกพรรษา)
??
พระกฤช #ฝากคิด #ฝากคำ ๑๘๓

#พระมหากรุณาธิคุณ

ชาตินี้มาเจอคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว
(พระโคตมพุทธเจ้า)
พระพุทธเจ้าของเราในยุคนี้เนี่ยนะ
พิเศษตรงที่ว่า​ อุบัติมาในยุคที่มนุษย์มีกิเลสเยอะ
เมื่อเทียบกับพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ที่เคยมีมา​
ตามที่พระองค์ระลึกแล้วก็นำมาเปิดเผยให้กับพวกเรา

พระพุทธเจ้าบาง​พระองค์อายุหมื่นปี
บาง​พระองค์สองหมื่นปี บาง​พระองค์สี่หมื่นปี
บาง​พระองค์แปดหมื่นปี บาง​พระองค์เป็นแสนๆปี
บาง​พระองค์อยู่ในยุคที่มนุษย์​ที่แทบไม่มีกิเลสเลย
เกิดขึ้นมาก็ไม่มีสงคราม ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันเลย
บางยุคไม่มีการโกหกกันเลย

แต่ยุคนี้.. พระองค์เกิดมาในยุคที่แบบเพียบพร้อม..
เพรียบพร้อมไปด้วยกิเลส!
เป็นยุคที่มนุษย์เดือดร้อนมาก
เป็นทุกข์กับการมีกิเลสของตนเองและของคนอื่นมาก
แต่พระองค์ก็อุตส่าห์เลือกมาเกิด
จะไม่เกิดตอนนี้ก็ได้​ แต่ว่า..
เห็นว่าตอนนี้คนกำลังทุกข์มาก​ ยังอุตส่าห์มาเกิด
ถ้าเราไม่รับพระกรุณาของท่าน
ด้วยการที่​ “ไม่เอา.. ฉันยังไม่เรียน” เนี่ยนะ
ผิดวัตถุประสงค์ของพระพุทธเจ้าเลย

ยุคนี้เหมาะแล้ว​ เพราะว่าพระองค์​(เสด็จ​อุบัติ)​มาเพื่อพวกเราแล้ว
(พระองค์)​เป็นพระพุทธเจ้าที่ยิ่งด้วยปัญญา
มีคำสอนเอาไว้มากมายถึง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
ก็เพื่อคนยุคนี้แหละ!
ก็เหมาะแล้วสำหรับเราที่จะมาเรียนคำสอนของพระองค์…

ธรรมบรรยายโดย
พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล
???
เรียบเรียงจากไฟล์เสียง
610513 ทุกข์น้อยลงจนถึงไม่มี
๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑
(นาทีที่ ๐๑.๑๘.๐๖-๐๑.๑๙.๕๗)


อ่านบน Facebook

#ประชาสัมพันธ์ #เชิญฟังธรรม ?ขอเรียนเชิญผู้สนใจเข้าร่วมลงทะเบียนออนไลน์ (ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ)…

#ประชาสัมพันธ์ #เชิญฟังธรรม
?ขอเรียนเชิญผู้สนใจเข้าร่วมลงทะเบียนออนไลน์
(ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ)
เพื่อเข้ารับฟังธรรมบรรยาย หัวข้อเรื่อง “คนรู้ใจ”
โดย..พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล
และ..พระอาจารย์เกรียงไกร สุภาทโร

วันอาทิตย์ที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
เวลา ๐๘.๐๐ – ๑๖.๓๐ น.
ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมทองธารา กรุงเทพฯ

กำหนดการโดยย่อ:
ช่วงเช้า : พระอาจารย์เกรียงไกร สุภาทโร
ช่วงบ่าย : พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล

#คลิกลิงค์นี้ เพื่อลงทะเบียนฟรี!
>>> https://goo.gl/zA99h7
เจ้าภาพขอรับลงทะเบียนทางออนไลน์เท่านั้นนะคะ
———————————–
หมายเหตุ :
? เข้าร่วมฟังธรรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
? พร้อมอาหารกลางวัน (บุฟเฟต์) และอาหารว่าง เช้า-บ่าย
? ร่วมทำบุญถวายสังฆทาน ฝึกภาวนา
———————————–
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่..ทีมงานคลิกใจให้ธรรม
โทร. 064-142-2546

(แผนที่ http://bit.ly/2OJ1QHR)


อ่านบน Facebook

#นิมฺมโลตอบโจทย์ ๑๓๗ ?? #ถาม​ : สำหรับฆาราวาสที่ตั้งใจอธิษฐานกระทำสิ่งดีงามกันไว้​ในช่วง​เทศกาลเข้าพรรษา…

#นิมฺมโลตอบโจทย์ ๑๓๗
??
#ถาม​ : สำหรับฆาราวาสที่ตั้งใจอธิษฐานกระทำสิ่งดีงามกันไว้​ในช่วง​เทศกาลเข้าพรรษา แล้ว​ทำ​ได้​บ้าง​ไม่ได้​บ้าง​ หากครบกำหนดออกพรรษา​แล้ว​ ควรวางใจ​อย่าง​ไร​ครับ? และถ้าผู้ทำได้ตลอดพรรษานั้นจะมีอานิสงส์เช่นไร ควรน้อมจิตถวายบุญนี้กันเช่นไร​ครับ?

#ตอบ​ : สำหรับ​คน​ที่​ทำ​ได้​ตาม​ที่​อธิษฐาน​ไว้​
– ได้​ความ​เชื่อมั่น​ใน​ตัวเอง​ ใน​การ​ทำ​สิ่ง​ดีงาม​ ปลูกฝัง​กุศล​ศรัทธา​ให้​เจริญ​ขึ้น​ จิต​มี​กำลัง​มาก​ขึ้น
– ได้​สัจจบารมี​ เพราะ​ได้​กล่าว​ไว้​เช่นไร​ ก็​ทำ​จริงตาม​ที่​ได้​กล่าว​ไว้​นั้น
– ได้​อธิษฐาน​บารมี​ เพราะ​ตั้งใจ​ไว้​ว่า​จะ​ทำ​อะไร​ ก็​ได้​ทำ​และ​ทำ​ได้​ตามที่​ตั้งใจ​ไว้นั้น
– ได้​วิริยบารมี​ เพราะ​ต้อง​อาศัย​ความ​เพียร​เป็น​เรี่ยวแรง​ใน​การ​มุ่งมั่น​ทำ​กิจ​นั้น
– ได้​ขันติ​บารมี​ เพราะ​ต้อง​อดทน​ทำ​กิจ​นั้น​ให้​ลุล่วง​ตลอด​ตาม​กำหนด
– ได้​ปัญญา​บารมี​ เมื่อ​มี​อุปสรรค​ใน​การ​ทำ​กิจ​นั้นแล้ว​สามารถ​หา​ทาง​แก้ปัญหา​ให้​ฝ่าย​ไป​ได้​ใน​ทาง​ที่​ชอบ
– ส่วน​บารมี​และ​กุศล​ธรรมอื่น​ ก็​ขึ้น​อยู่​กับ​สิ่ง​ที่​อธิษฐาน​นั้น​ว่า​จะ​ทำ​อะไร​ ก็​อาจจะ​ได้​บารมี​และ​กุศล​ธรรมตาม​ความ​เหมาะสม​กับ​สิ่ง​ที่​ทำ​มา​นั้น

สำหรับ​คน​ที่​ทำ​ได้​บ้าง​ไม่ได้​บ้าง​ ก็​ควร​อนุโมทนา​กับ​ตัวเอง​ใน​ส่วน​ที่​ทำ​ได้​ เพราะ​ที่​ทำ​ได้​แม้​ว่า​จะ​เล็กน้อย​ ก็​ยัง​ดี​กว่า​ไม่ได้​ทำ

จากนั้น​ก็​มา​วิเคราะห์​ดู​ว่า​ ใน​ส่วน​ที่​ทำ​ไม่ได้​ เรา​พลาด​ตรง​ไหน​ ถ้า​จะ​ทำ​อีก​ควร​ป้องกัน​อุปสรรค​นั้น​อย่างไร​ ถ้า​คิด​ไม่​ออก​ ก็​หา​เวลา​ไป​ปรึกษาหารือ​กับ​บัณฑิต​
อย่า​เสียเวลา​กับ​การ​ทับถม​ตนเอง​
เอา​ปัญหา​มา​พัฒนา​ปัญญา​ดีกว่า​
ตั้งใจ​ไว้​ว่า​ โอกาส​หน้า​จะ​ทำ​ให้​ดี​กว่า​นี้

บุญ​บารมี​ที่​ได้​บำเพ็ญ​แล้ว​ ไม่​ว่า​มาก​หรือ​น้อย​ ขอ​ให้​น้อมนำมา​
– บูชา​พระ​รัตนตรัย​
– บูชา​คุณ​ครูบาอาจารย์​
– อุทิศถวาย​แด่​บูรพมหากษัตริย์​ทุก​พระ​องค์​ รวมทั้ง​บรรพบุรุษ​ทุก​ท่าน​ ที่​ได้​รักษา​แผ่นดิน​ให้​เรา​ไ​ด้​อาศัย​ และ​รักษา​ศาสนา​ไว้​ให้​เรา​มา​ศึกษา​
– อุทิศ​ให้​กับ​พ่อ​แม่​ ญาติ​มิตรและ​ผู้​มี​พระ​คุณ​ทุก​ท่าน​ ที่​ได้​อุปถัมภ์​ค้ำชู​เลี้ยงดู​และ​เอื้อ​เฟื้อ​เรา​มา​
– อุทิศ​ให้​กับ​เหล่า​เทวดา​ และ​สรรพสัตว์​ใน​สาม​แดน​โลก​ธาตุ​ สัตว์​เหล่า​ใด​มี​ทุกข์​จง​มา​อนุโมทนา​บุญ​กุศล​ที่​เรา​อุทิศ​ให้​นี้​เพื่อ​พ้น​จาก​ทุกข์​ เปลี่ยน​จาก​ทุคติ​ไป​สู่​สุคติ​ สัตว์​เหล่า​ใด​มี​สุข​อยู่แล้ว​ก็​ขอ​ให้​สุข​ยิ่ง​ขึ้น​ไป
– อุทิศ​ให้​กับ​ผู้​ที่​เรา​เคย​ล่วงเกิน​และ​ผูก​เวร​อยู่​ ขอ​ให้​บุญ​กุศล​ที่​กำลัง​อุทิศ​ให้​นี้​เป็น​เครื่อง​บรรณาการ​ เพื่อ​ทดแทน​ความ​ผิดพลาด​ล่วงเกิน​นั้น​ ขอ​ให้​ท่าน​เหล่านั้น​อนุโมทนา​บุญ​ร่วมกัน​ ให้​อภัย​กัน​ เมตตา​กัน​ มุ่ง​ดี​ต่อ​กัน​และ​กัน
– อุทิศ​ให้​กับ​ศัตรู​และ​ผู้​ที่​เคย​ล่วงเกิน​เรา​ เรา​ปรารถนา​การ​ให้​อภัย​จาก​ผู้​ที่​เรา​เคย​ล่วงเกิน​ด้วย​อาการ​อย่างไร​ เรา​ก็​ขอ​ให้​อภัย​กับ​ผู้​ที่​เคย​ล่วงเกิน​เรา​ด้วย​อาการ​อย่างนั้น​ ไม่​ขอ​จองเวร​ใคร
– อุทิศ​ให้​กับ​ตนเอง​ ขอ​บุญ​บารมี​ที่​ได้​บำเพ็ญ​มา​ทั้งหมด​ จง​หนุนอำนวย​ให้​เรา​ถึง​พร้อม​ซึ่ง​ความ​เจริญ​ใน​ธรรม​ ให้​เข้า​สู่​กระแส​ธรรม​ ถึง​ความ​พ้น​ทุกข์​ด้วย​เทอญ

๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๑


อ่านบน Facebook

#นิมฺมโลตอบโจทย์ ๑๓๖ #ประสบการณ์ทุกข์แบบนิมฺมโล ?? #ถาม : เคยได้ยินพระอาจารย์เทศน์ไว้ว่า ของพระอาจารย์น่ะต้องภาวนาแบบสบาย…

#นิมฺมโลตอบโจทย์ ๑๓๖
#ประสบการณ์ทุกข์แบบนิมฺมโล
??
#ถาม : เคยได้ยินพระอาจารย์เทศน์ไว้ว่า ของพระอาจารย์น่ะต้องภาวนาแบบสบาย ใช่หรือปล่าวคะ?

#ตอบ : ก็อยากสบายทุกคนแหละ

#ถาม : ที่ถามนี่อยากก๊อปปี้ (Copy) พระอาจารย์เจ้าค่ะ ทุกคนจะเห็นลักษณะของพระอาจารย์น่ะ ยิ้มแย้มแจ่มใส เบิกบานใครเห็นก็มีความสุขแล้ว ในความรู้สึกของตัวโยมเองก็รู้สึกว่า พระอาจารย์คงไม่มีความทุกข์น่ะค่ะ

#ตอบ : ฮื่อ! ไม่ใช่นะ ยังทุกข์อยู่

#ถาม : อยากให้พระอาจารย์แชร์เรื่องความทุกข์ของพระอาจารย์ในขณะที่ภาวนา เพราะไม่เคยเห็นพระอาจารย์เทศน์เรื่องทุกข์ของพระอาจารย์เลยน่ะค่ะ

#ตอบ : ( หัวเราะ ) โอ้โห… ถ้าพูดเรื่องนี้นะ อีกยาวเลยนะ
คือยังไงดี เอาในแง่ของอาตมาก่อนนะ
มีคำสอนอยู่อันหนึ่งบอกว่า “ความฟุ้งซ่านแสดงถึงความต่อภพต่อชาติ” เคยได้ยินคำนี้ไหม?
ความฟุ้งซ่านเนี่ย..ยิ่งฟุ้งซ่านมากแสดงว่ายังต้องมีภพชาติอีกเยอะ!
พอได้ยินแบบนี้แล้วฟุ้งซ่านมากขึ้นหรือปล่าว? มันอดไม่ได้นะ

ทีนี้..เมื่อก่อนอาตมาก็จะบังคับไม่ให้ฟุ้งซ่านด้วยการบังคับใจตัวเองให้อยู่กับที่นิ่งๆ ซึ่งทำผิดจริต จึงทำไม่ได้ผล
แต่พอรู้ว่าจริตอย่างเราเนี่ยเป็นพวกที่ทิฏฐิจริต พวกทิฏฐิจริตไม่ใช่ไปห้ำหั่นกับความฟุ้งซ่านในลักษณะนั้น ก็ให้มาทำความรู้สึกตัวด้วยการเจริญสติ รู้ทันความฟุ้งซ่าน ให้ฟุ้งไป..แล้วก็จะรู้ ฟุ้งไป..แล้วก็จะรู้
ตอนที่ทำผิดเนี่ยจะมีความทุกข์ กำลังฟุ้งไปก็ทุกข์ ห้ามความฟุ้งก็ทุกข์ เพราะมันห้ามไม่ได้ มันน่าสงสารมากเลย
เพลินฟุ้งอยู่พักหนึ่ง..ฟุ้งๆไปเดี๋ยวก็ทุกข์อีกแล้ว เพราะฟุ้งซ่านจะต่อด้วยรำคาญใจ รำคาญใจทีไรจะทุกข์ทุกที ใช่มั้ย?
แล้วก็พอจะบังคับไม่ให้ฟุ้งซ่านก็ทุกข์ เพราะบังคับไม่ได้

มีความสุขหน่อยเดียว ตอนที่ว่ามันหมดแรงแล้วหลับ!
ที่มันทนได้อยู่เนี่ยก็เพราะหลับ อาศัยหลับ
นี่..ทุกข์ในแนวอาตมา

ถ้ายังทำอย่างนี้ต่อไปนะ..ก็ปฏิบัติเป็นทุกข์ ชาตินี้จะบรรลุหรือปล่าวก็ไม่รู้ แต่คิดว่าคงไม่บรรลุหรอก เพราะว่าปฏิบัติผิดจริตผิดแนว ทำแล้วไม่ได้ผล เพราะว่าทำแล้วก็ทุกข์
ฟุ้งซ่านไปเนี่ย..ไม่มีสติก็ทุกข์ พยายามจะปฏิบัติด้วยการบังคับไม่ให้มันฟุ้งซ่านก็ทุกข์
พอรู้ว่าจริตเราเป็นแบบนี้ (คือทิฏฐิจริต) แล้วรู้ว่ามีแนวทางปฏิบัติของคนจริตแบบนี้ คือ เจริญสติดูจิตไปเลย แค่รู้ตัวนี้นะ..ทุกข์หายไปเยอะเลย เพราะโล่งใจ โปร่งใจว่า “เฮ้ย! เรามีทางแล้ว!”
เมื่อก่อนนี่นะ..กูไม่มีทางเลย! ทำมาสิบกว่าปีจะยี่สิบปียังไม่ได้อะไรเลย ท้อถอย..ทำไปทุกข์ไป ทำไปทุกข์ไป แต่ก็ทนทำ!
ที่จะชมคุณธรรมตัวเองได้เนี่ยนะ..คือทน ทนอยู่ได้ไงไม่รู้นะ..สิบกว่าปี

แต่พอรู้ทางนะ..โปร่งเลย โล่งเลย แต่ที่โล่งเนี่ยก็โล่งชั่วคราวนะ อุปสรรคยังมีอีกเยอะ
อุปสรรคที่ว่าก็คือ คิดว่า “ทำยังไงกูจะรู้บ่อยๆ?” อยากมีสติรู้ไอ้ฟุ้งซ่านนี่แหละถี่ๆ บ่อยๆ เพราะฟุ้งซ่านมันจะยาวใช่มั้ย? กว่ามันจะเรียกว่าฟุ้งซ่านได้ก็คือมันจะเผลอไปคิดยาว ถ้าแว้บนึงเนี่ย..มันยังไม่ถือว่าเป็นฟุ้งซ่านในระดับอาตมานะ อาตมาฟุ้งคือต้องยาว ให้เวลามันสักรอบนึงน่ะ
ฉะนั้น พอรู้ตัวทีไรมันก็จะหงุดหงิดใจตัวเองทุกทีว่า “กูฟุ้งมายาว!”
ทั้งๆที่เจริญสติแล้วนะ มีสติแล้ว แต่ก็ยังมีทัศนคติที่ผิด โล่งใจตรงที่ว่า “กูมีแนวทางของกูแล้วล่ะ กูจะไปอย่างนี้ล่ะ” คือจะเจริญสติดูจิต แต่เจริญสติด้วยทัศนคติที่ผิด คือเข้าใจว่า ถ้ารู้แล้ว..ฟุ้งซ่านมันต้องดับหายไปเลย หรือว่าควรจะสงบมากกว่านี้ นี่เป็นทัศนคติผิด คือคิดว่า ยังไงๆ จิตก็ต้องสงบก่อน นิ่งก่อน ก็วนกลับมาที่เก่า คือบังคับจิต
เจริญสติรู้จิตก็จริงนะ แต่ยังอยากสงบด้วย อยากนิ่งด้วย
ทั้งๆที่คนที่เจริญสติดูจิตเนี่ย ถ้าฟุ้งแล้วรู้ว่าฟุ้ง..ไม่บังคับจิต จิตจะเจริญเร็ว เพราะจะเห็นสภาวะเกิดดับได้ง่าย แต่เรากลับไม่ยอม ไปยั้งจิตตัวเองไม่ให้เจริญด้วยความเข้าใจผิดว่า “เฮ้ย! ต้องสงบ ต้องนิ่ง!” นี่ก็เป็นทุกข์อีกแบบหนึ่ง
พอมีทัศนคติว่าต้องสงบก่อน เวลาเห็นฟุ้งซ่านก็ไม่พอใจ “ฟุ้งจัง”.. ไม่ชอบความฟุ้ง แล้วดึงจิตตัวเอง นี่ก็เป็นความทุกข์แบบหนึ่ง เป็นความทุกข์ที่สร้างเอง เพราะไปสร้างเงื่อนไขให้ตัวเองว่าอย่าฟุ้งซ่าน..ต้องสงบ นี่ก็ทุกข์อีกขั้นหนึ่ง จนมันเรียนรู้ ค่อยๆ เรียนรู้ไป

เรื่องการเรียนรู้เนี่ย อาตมามีบุญนิดหนึ่งตรงที่ว่ามีครูบาอาจารย์คอยช่วยดูให้ ครูบาอาจารย์คอยแนะนำว่า “ที่ทำอยู่เนี่ย มันบังคับตัวเองเกินไป มันมีฟอร์มนักปฏิบัติ แล้วของเก่าที่ทำมามันทำจนชิน ให้เลิกๆ ไปซะ”
“เอ้า! เลิกก็เลิก!” พอดีเป็นคนหัวอ่อน ว่าง่าย (ฮา..)
เลิกก็เลิก เลิกคือเลิกทำแบบเดิม พอเลิกทำแบบเดิมไปแล้ว คราวนี้มันเอาคืน! กิเลสที่เรากดเอาไว้ข่มเอาไว้เนี่ยนะ..พอเลิกกดข่ม..มันก็ขึ้นมาเลย
อาตมาเป็นคนขี้โกรธนะ จริงๆ แล้วขี้โกรธ อย่ายั่วนะ!
ที่มันขี้โกรธเพราะอะไรรู้มั้ย? ที่มันขี้โกรธเพราะว่าชอบวิจารณ์!
มันมีมาตรฐานของตัวเองอยู่อย่างหนึ่ง เวลาเขาทำอะไรเนี่ยเราจะมีมาตรฐานของเราไปเทียบ ว่ามันน่าจะเป็นอย่างนี้ มันน่าจะเป็นอย่างนั้น แล้วเราก็วิจารณ์ ที่วิจารณ์ไปก็คือว่ามันยังไม่เป็นตามมาตรฐานของเรา โยมเคยเป็นมั้ย? เรามีมาตรฐานของเราอย่างหนึ่ง เห็นอะไรเราก็ “แหม..น่าจะอย่างนี้” เห็นอย่างนี้ก็ “แหม..มันน่าจะอย่างนั้น” ด้วยความปรารถนาดีนะ ประมาณว่า.. “เราเนี่ยฉลาดมากเลย ความเห็นของเราเนี่ยดีมากนะ มันจะมีประโยชน์ต่อเขามากเลยนะ ที่เราเสนอไปเนี่ย ถ้าเขาทำตามนะมันจะเป็นประโยชน์มากเลย”
เสนอไปแล้วถ้าเขาไม่ทำตามก็โกรธ! แค่เสนอไปแล้วเขาไม่ตั้งใจฟังก็โกรธแล้ว เคยเป็นมั้ย? นี่ก็เป็นทุกข์อีกแบบหนึ่ง

ทั้งๆ ที่ก็รู้เหมือนกันนะว่า เรานี่เป็นทิฏฐิจริต..ต้องเจริญสติดูจิต แต่ก็มีไอ้พวกนี้เป็นอุปสรรคขัดขวางไปเรื่อยๆ อุปสรรคขัดขวางเนี่ยนะใครทำ?.. เราทำเอง! สร้างขึ้นมาเอง! จิตเนี่ยสร้างความเคยชินอย่างนี้ขึ้นมา

ทำไมเราจึงเป็นทิฏฐิจริต?
ก็มันคิดมานานแล้ว ช่างคิดมานานแล้ว สั่งสมมาเอง จิตเนี่ยสั่งสมมาเอง เราเลือกจริตไม่ได้..จิตมันทำมา จิตมันเลือกเองมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ มันสั่งสมนิสัยสันดานมามันจึงกลายเป็นคนช่างคิด มีความเห็นและยึดในความเห็นตัวเอง

การมีความเห็นอย่างเดียวไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเท่าไหร่ แต่ตัวปัญหาใหญ่คือการยึดในความเห็น
เคยเป็นมั้ย? เถียงกันในห้องประชุมน่ะมีมั้ย? ยึดในความเห็นของตัวเอง..ตรงนี้คือปัญหา เราก็รู้ไปเลยว่า..นี่เรายึดในความเห็นอีกแล้ว

มันจะค่อยๆ ฉลาดขึ้นนะ ค่อยๆ เห็นเบื้องหลังความเลวร้ายของตัวเองมากขึ้น
มันแปลกตรงที่ว่า ถ้าเห็นเบื้องหลังความเลวร้ายของตัวเองทีไร..มันสบายทุกทีเลย! มันโล่งนะ
แต่ถ้าเห็นความร้ายกาจของคนอื่นนะ “ฮึ่ม.. !” มันเหมือนกับว่า “กูจะไปปราบมัน!”
แต่เห็นความเลวร้ายของตัวเองเนี่ยนะ เห็นทีไรมันจะโล่งขึ้น
ฉะนั้น งานของเราไม่ใช่ว่าจะไปปราบมารให้ราบคาบ
นั่นมันมารข้างนอก ให้มาปราบมารในใจของตัวเองนะ
พอได้มั้ย? แนวทุกข์แบบนิมฺมโล …

??

เรียบเรียงจากการตอบคำถาม
โดย พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล
ณ บ้านจิตสบาย
วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๙

แผ่น CD บ้านจิตสบาย ๑๐
ไฟล์ ธรรมะรับกาลเวลา 591225
Track 04.ประสบการณ์ทุกข์แบบนิมฺมโล
https://wp.me/p5bBOI-25M


อ่านบน Facebook

วันพุธที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๑ วันพระขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ ☘☘☘ พระกฤช #ฝากคิด #ฝากคำ ๑๘๒ #ให้เขายกโทษให้…

วันพุธที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๑
วันพระขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๑
☘☘☘
พระกฤช #ฝากคิด #ฝากคำ ๑๘๒

#ให้เขายกโทษให้

คำว่า “ไม่เป็นไร”
ใช้เฉพาะเวลาตอนที่คนอื่นทำเรา
แต่ถ้าเราไปทำกับเขานะ(อย่างนี้)เป็น!
ไม่เป็นไรไม่ได้! ต้องไปขอโทษ
เพราะว่าเราได้สร้างเหตุที่จะทำให้เราไปสู่อบายเสียแล้ว

ถ้าเราไม่ไปขอโทษ ไม่ไปขออภัย
ไม่ให้เขาให้อภัยแล้วเนี่ย
เราจะรู้สึกว่ามันติดค้างอยู่ในใจ
ไม่แสดงโทษของตัวเองให้เขายกโทษอันนั้นให้กับเรา

ภาษาไทยดีนะ! “ให้เขายกโทษให้”
มีโทษอยู่กับตัว ไปบอกกล่าว
แล้วให้เขายกโทษให้ แล้วเราจะได้สบายใจ
การกระทำครั้งนั้น มีโทษอยู่ก็จริง
แต่เมื่อขออภัยกันแล้วก็เป็นอันหมดเวรต่อกัน
อาจจะได้รับวิบากจากการกระทำนั้น
แต่จะไม่เป็นการก่อเวรซึ่งกันและกัน

ถ้าเราเองเป็นฝ่ายทำไม่ดี..ต้องเป็นไร!
ไม่เป็นไรไม่ได้ ต้องไปขอโทษ ต้องไปขอขมากัน

ธรรมบรรยายโดย
พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล
☘☘☘

เรียบเรียงจากการแสดงธรรม เรื่อง “ไม่เป็นไร”
ในรายการธรรมปทีป WBTV ณ วัดยานนาวา
ลิงค์วีดีโอ https://www.youtube.com/watch?v=AmKAe4H9NMM
(นาทีที่ 10.50-11.15)

ถอดคำโดย..อารยา สุวะมาตย์


อ่านบน Facebook

สุตมยปัญญา ปัญญาเกิดจากการฟัง การอ่าน หรือการสดับเล่าเรียน ?อัพเดทหนังสือใหม่ บนแผงหนังสือนิมฺมโล …

สุตมยปัญญา ปัญญาเกิดจากการฟัง การอ่าน หรือการสดับเล่าเรียน
?อัพเดทหนังสือใหม่ บนแผงหนังสือนิมฺมโล
ที่ลิงค์ https://nimmalo.com/bookshelf/
#นิมฺมโลตอบโจทย์เล่ม
#พระกฤช ฝากคิด ฝากคำ เล่ม ๓
สามารถคลิกอ่านและดาวโหลดได้เลยค่ะ


อ่านบน Facebook

#เชิญฟังธรรม ??? ขอเรียนเชิญผู้ที่สนใจฟังธรรมบรรยาย ใน วันเสาร์ที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๑ …

#เชิญฟังธรรม
???
ขอเรียนเชิญผู้ที่สนใจฟังธรรมบรรยาย
ใน วันเสาร์ที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๑
เวลา ๑๕.๐๐ – ๑๖.๓๐ น.

โดย.. พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล

ที่ สถานีวิทยุโทรทัศน์โลกพระพุทธศาสนา เฉลิมพระเกียรติฯ (WBTV)
ณ อาคารมหาเจษฏาบดินทร์ ชั้น 3 วัดยานนาวา

๔๐ ถนน เจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม โทร ๐๒ – ๖๗๒ ๓๒๐๖

(แผนที่ https://goo.gl/maps/2bg7cRKjqZ32)


อ่านบน Facebook

#วันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๑ ??? ถ้า​จะ​แสดง​ความ​ภักดี​…

#วันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๑
???
ถ้า​จะ​แสดง​ความ​ภักดี​ ก็​ให้​นึก​ถึง​หลัก​ทรง​งาน​ ให้​มา​เป็น​แรง​บันดาลใจ​กับ​เรา​ เช่น​ เคย​รับ​สั่ง​ว่า​ “ต้อง​ทำ​หน้าที่​เพื่อ​หน้าที่​ มิ​ใช้​ทำ​เพื่อ​หวัง​ผลประโยชน์.. ผลประโยชน์​โดย​สมบูรณ์​ของ​งาน​ ก็​เป็น​รางวัล​สูงสุด​อยู่​แล้ว​”

เรา​ก็​ทำงาน​ให้​ซื่อสัตย์​ ซื่อตรง​ต่อ​หน้าที่การงาน​ ทำ​งาน​ที่​สุจริต​ เวลา​ทำ​ก็​สนุก​ที่​จะ​ทำ​และ​เต็ม​ใจ​ทำ​

สังเกต​ได้​ว่า​ เรา​มัก​จะ​เห็น​ “รอยยิ้ม​” ของ​พระ​องค์​ ก็​ตอน​ทรง​งาน​อยู่​กับ​ราษฎร​

เรา​ก็​ให้​มี​ความ​สุข​กับ​การ​ทำ​งาน​ของ​เรา​ ยิ่ง​งาน​ที่​มี​ประโยชน์​ต่อ​คน​หมู่​มาก​ ก็​ยิ่ง​สุข​มาก​

สำหรับ​นัก​ภาวนา​ ก็​เรียน​หลัก​มา​มาก​แล้ว​ ก็​มี​งาน​ที่​เหลือ​คือ​ ​นำ​ไป​ทำ​และ​ทำ​ทันที​ แม้​จะ​ทุกข์​โศก​ ก็​รู้​สึก​ตัว​ไว​ๆ ไม่​ปล่อย​ใจ​ให้​ถลำ​ไป​กับ​อกุศล​นาน​ งานกรรมฐาน​ก็​ทำ​ได้​ไม่​เว้น​ แม้​ใน​กรณี​นี้​

ก็​ขอ​ให้​มี​พระ​องค์​เป็น​แรงบันดาลใจ​ ทำ​หน้าที่​ของ​คนไทย​ ทำ​หน้าที่​ของ​พ่อ​แม่​ ทำ​หน้าที่​ของ​ลูก​ ทำ​หน้าที่​ของข้าราชการ​ ทำ​หน้าที่​ของ​ประชาชน​ ทำ​หน้าที่​ของ​พระ​ ทำ​หน้าที่​ของ​โยม​ ทำ​หน้าที่​ของ​ชาว​พุทธ

อุทิศ​ถวาย​รางวัล​อัน​สูงสุด​ที่​เรา​มี​ คือ​ผล​งาน​ใน​หน้าที่​ที่​สมบูรณ์​ แด่​พระองค์​

มอง​ขึ้น​ฟ้า​ ก็​แน่ใจ​ได้​ว่า พระ​องค์​กำลัง​ยิ้ม …

พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล
๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙
???

ด้วยกุศลผลบุญทั้งหลายที่เหล่าทีมงานนิมฺมโล.คอม, นิมฺมโลเพจได้ร่วมกันเผยแพร่คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดจนคุณงามความดีทุกประการ ขอร่วมน้อมถวายบุญกุศลทั้งหมดทั้งมวลนี้ เป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
???

(อ้างอิงลิงค์ #นิมฺมโลตอบโจทย์ ๕๑ https://www.facebook.com/nimmalo/posts/611734082342970:0)


อ่านบน Facebook

วันอังคารที่ ๙ ตุลาคม ๒​๕​๖๑ วันพระ​ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ??? พระกฤช #ฝากคิด #ฝากคำ ๑๘๑ #เห็นความเลว…

วันอังคารที่ ๙ ตุลาคม ๒​๕​๖๑
วันพระ​ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐
???
พระกฤช #ฝากคิด #ฝากคำ ๑๘๑

#เห็นความเลว

เมื่อสติอ่อนไม่ทันกิเลส
อาศัยกิเลส แสดงออกทางคำพูดบ้าง
ทางสีหน้า ท่าทางบ้าง
ก็ต้องไปขอขมากับคนที่เราเผลอพลาดไปทำกิริยาที่ไม่ดี
…..
พอเห็นความเลว(ของตนเอง)แล้วมันเริ่มดี
ดีครั้งแรกคือ ไม่ต้องให้คนอื่นเขาเห็นว่าเราดี
แต่เรามีความเข้าใจมากขึ้น..ตัวนี้สำคัญกว่า​!
ใครจะเห็นเรา​อย่างไร​ก็​ไม่รู้..
แต่เราต้องเห็นตัวเอง ต้องเข้าใจตัวเอง

เวลาเห็นเนี่ยนะ มันจะเห็นว่า​ “กิเลสเลว”
ที่ควรเห็นนะ!
เห็นทีแรกๆ​ เนี่ย “กูเลว”
แต่ดูๆไปนะ จริงๆน่ะไอ้ความเลวคือ กิเลส
ราคะมันเลว โทสะมันเลว
ความเผลอความหลงมันเลว
ความฟุ้งซ่านมันเลว ใจที่หดหู่เนี่ยมันเลว
ใจพวก​นี้มันเลว ไม่ได้มี​ “เรา” ในนั้น

เห็นราคะ โทสะ โมหะ
เป็นเพียงอะไรที่มันจรมาในใจ แล้วมันก็หายไป..
จรมาแล้วก็หายไป..
ต้องเห็นอย่างนี้นะ!

ธรรมบรรยายโดย
พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล
???
เรียบเรียงจากไฟล์ 601224 พรปีใหม่
วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๐
ลิงค์ไฟล์ https://www.youtube.com/watch?v=CCzp1LTHtPs&t=186s
(นาทีที่ ๓๘.๕๒-๔๑.๕๖)


อ่านบน Facebook

#นิมฺมโลตอบโจทย์ ๑๓๕ ?? #ถาม : ถ้ามีเสียงรบกวนขณะเจริญสติ ต้องกำหนดอย่างไรคะ? #ตอบ : กรณีที่เริ่มต้นด้วยการรู้อยู่ที่องค์ภาวนา…

#นิมฺมโลตอบโจทย์ ๑๓๕
??

#ถาม : ถ้ามีเสียงรบกวนขณะเจริญสติ ต้องกำหนดอย่างไรคะ?

#ตอบ : กรณีที่เริ่มต้นด้วยการรู้อยู่ที่องค์ภาวนา เมื่อมีเสียงมา ก็เห็นจิตแสดงอาการต่าง ๆ เช่น
๑. จิตมันเคลื่อนไปฟังเสียง ก็รู้ว่าจิตมันเคลื่อนไป เห็นการเคลื่อนของจิต ก็ได้สมาธิแบบ “จิตตั้งมั่น”
๒. ถ้าไม่ทันเห็นความเคลื่อนของจิต มันไปอินกับเสียงแล้ว เสียงนี้เราชอบ เกิดความพอใจ ก็รู้ว่าเผลอมาพอใจ หรือจะรู้ว่ามีราคะก็ได้ อย่างนี้เรียกว่า “มีสติ”
๓. ถ้ามันไปอินกับเสียงแล้ว เสียงนี้เราไม่ชอบ เกิดความไม่พอใจ ก็รู้ว่าเผลอมาไม่พอใจ หรือจะรู้ว่ามีโทสะก็ได้ อย่างนี้ก็เรียกว่า “มีสติ”
๔. ถ้าเห็นว่าจิตมันเคลื่อนไปฟังเสียงเอง ก็ได้ “ปัญญา” เห็นไตรลักษณ์ คือเห็นจิตแสดงอนัตตลักษณะ

ก็ลองสังเกตดูว่า เมื่อรับรู้เสียงแล้วเกิดปฏิกิริยาอย่างไรกับจิต
ถ้าฟังเพลินไปเลย ก็แสดงว่าเราลืมภาวนา
ถ้ารำคาญ ก็แสดงว่าเราตั้งใจจะทำสมถะ จะเอาความสงบ แล้วเจ้าเสียงนี้มันมารบกวน ก็จะเกิดโทสะ
แต่ถ้าย้อนกลับมาเห็นจิตแสดงอาการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่แจกแจงมา ก็จะได้สติบ้าง ได้สติและสมาธิแบบจิตตั้งมั่นบ้าง บางทีก็จะได้ทั้งสติ, สมาธิแบบจิตตั้งมั่นและได้ปัญญาในระดับวิปัสสนาด้วย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเห็นจิตแสดงความจริงได้แค่ไหน

โดยมาก..เสียงจะมีปัญหารบกวนผู้ฝึกสมถะ ท่านจึงแนะผู้ที่ฝึกสมถะให้ไปหาที่ที่สงัด เช่น ในป่า ถ้ำ เป็นต้น
แต่ถ้าจะฝึกวิปัสสนา ก็ไม่จำเป็นต้องไปหาที่เงียบสงัดขนาดนั้น อยู่ในเมือง มีเสียงจอแจ เสียงแตร เสียงกลอง เสียงฆ้อง เสียงระฆัง เสียงกะละมัง เสียงด่า ก็ภาวนาได้

๖ ตุลาคม ๒๕๖๑


อ่านบน Facebook

#นิมฺมโลตอบโจทย์ ๑๓๔ ?? #ถาม : เราจะมีวิธีการสำรวจตัวเองอย่างไรครับ ว่าเราพร้อมที่จะบวชพระเพื่อมุ่งความเพียรในการภาวนาแล้ว?…

#นิมฺมโลตอบโจทย์ ๑๓๔
??

#ถาม : เราจะมีวิธีการสำรวจตัวเองอย่างไรครับ ว่าเราพร้อมที่จะบวชพระเพื่อมุ่งความเพียรในการภาวนาแล้ว?

#ตอบ : ถ้าจะให้สำรวจตัวเอง..มันก็หาสูตรสำเร็จตายตัวยากอยู่นะ

ดูอย่างพระพุทธเจ้า เมื่อครั้งเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ พระองค์พบนิมิตทั้ง ๔ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ จึงเสด็จออกบรรพชา

พระสารีบุตรกับพระโมคคัลลานะ เมื่อครั้งเป็นอุปติสสะกับโกลิตะ ดูมหรสพแล้วสลดใจว่า ทุกคน..ทั้งผู้แสดงและผู้ชม..อีกไม่ถึง ๑๐๐ ปีก็ต้องตาย ก็คิดออกบวชแสวงหาโมกขธรรม

พระมหากัสสปะ ก่อนบวชชื่อว่าปิปผลิมาณพ ไม่มีความยินดีในชีวิตครองเรือน แต่ก็ยอมแต่งงานกับนางภัททกาปิลานี เพียงเพื่อทำตามความประสงค์ของพ่อแม่ แต่งงานแล้วก็ไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวกัน กระทั่งพ่อแม่ตายก็สละเรือนออกบวชด้วยกันทั้งคู่

พระอานนท์ ออกบวชตามมติในที่ประชุมเจ้าศากยะ ที่พระเจ้าสุทโธทนะทรงขอให้บรรดาเจ้าศากยะยลเจ้าชายออกบวชตามเสด็จพระพุทธเจ้าครอบครัวละหนึ่งองค์

พระนันทะ ออกบวชแบบไม่เต็มใจ แต่ก็บรรลุอรหัตตผลได้ ด้วยอุบายการสอนของพระพุทธเจ้า

พระจูฬปันถกะ ออกบวชตามการสนับสนุนของพระพี่ชาย แต่ท่องมนต์ไม่ได้ พระพี่ชายก็ไล่กลับบ้าน อาศัยอุบายการสอนของพระพุทธเจ้า ท่านก็ได้บรรลุอรหัตผล

จึงเห็นได้ว่า ความพร้อมในการออกบวชของแต่ละท่านนั้นต่างกัน ความสำคัญอยู่ที่ว่า..บวชแล้วมีใครเป็นอาจารย์ และเมื่อได้อาจารย์ดีแล้ว..เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของท่านหรือไม่

พระเทวทัต ออกบวชรุ่นเดียวกันกับพระอานนท์ แต่มีความมักใหญ่ ไม่เชื่อฟังพระพุทธเจ้า ยุยงให้พระเจ้าอชาตศัตรูทำปิตุฆาต และพยายามประทุษร้ายพระพุทธองค์ จนถึงทำสังฆเภท สุดท้ายก็ถูกธรณีสูบ ออกบวชมาหาเรื่องทำอนันตริยกรรมแท้ๆ

เห็นพระเทวทัตเป็นตัวอย่างเช่นนี้แล้ว ก็รู้สึกว่า แทนที่จะหาข้อดีในตนเพื่อตอบคำถามว่าเราพร้อมบวชหรือยัง ก็มาสำรวจข้อเสียที่พึงระวังสำหรับนักบวชและผู้ที่ประสงค์จะบวช..จะดีกว่าไหม?

ผู้ที่จะบวช (รวมทั้งผู้ที่บวชแล้วด้วย) ลองสำรวจดูว่า มีสิ่งเหล่านี้อยู่ในตนบ้างหรือไม่ คือ

๑. ความมักใหญ่ เพราะบวชแล้วชาวบ้านจะเคารพนับไหว้ ถ้ามีความมักใหญ่ก็ยิ่งถือตัวทะนงตน ยิ่งบวชนานก็ยิ่งมีโอกาสเจ้ายศเจ้าอย่าง เปิดทางให้ความเสียหายเข้ามาสู่ชีวิต

๒. ความมักมาก เมื่อได้ลาภสักการะก็หลงมัวเมา สะสม ถ้าพลาดไปแสวงหาในทางที่ผิดก็ยิ่งมีโทษหนัก

๓. ว่ายากสอนยาก เชื่อในความคิดเห็นของตนเองแบบหัวรุนแรง ก็อาจเป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันในหมู่คณะ เมื่อมีใครปรารถนาดีมาตักเตือนก็พาลมองไปว่าเขาเป็นศัตรู

วัดต่างๆ ที่มีระเบียบให้ผู้ขอบวชต้องไปถือศีลแปดที่วัดก่อนบวชระยะหนึ่งนั้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อจะดูว่าผู้นั้นมีความประพฤติเสียหายเหล่านี้บ้างหรือไม่ ถ้ามีแม้เพียงข้อใดข้อหนึ่ง ก็อาจจะพิจารณาไม่ให้บวช
ความมักใหญ่ และ ความมักมาก ผู้อื่นอาจจะเห็นกันยากหน่อย บางทีมันค่อยๆ โผล่มาตอนบวชนานแล้ว ยิ่งถ้ามีความว่ายากสอนยากเข้ามาสำทับด้วย ก็ยิ่งไปกันใหญ่ การบวช..แทนที่จะได้บุญกุศล มาภาวนาเพื่อมรรคผลพ้นทุกข์ กลับกลายเป็นสร้างทางไปอบาย

ขอย้ำว่า ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงความเห็นของอาตมาเท่านั้น อาจจะยังบกพร่องอยู่ก็ได้

สุดท้าย หาอาจารย์ให้ได้ เลือกอาจารย์ให้ดี จะมีคำตอบเอง

๔ ตุลาคม ๒๕๖๑


อ่านบน Facebook

บ้านจิตสบาย ๑๑

01.สาราณียธรรม ๖ 600730

02.บารมี 600827

03.จิตนี้วิจิตร 600924

04.คนช่างคิด 601029

05.จิตตสิกขา 601126

06.พรปีใหม่ 601224

วันอังคารที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๑ วันพระ​ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๐ ??? พระกฤช #ฝากคิด #ฝากคำ ๑๘๐ #กำลังของจิต…

วันอังคารที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๑
วันพระ​ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๐
???
พระกฤช #ฝากคิด #ฝากคำ ๑๘๐

#กำลังของจิต

จิตมีกำลังจากอะไรได้บ้าง?
กำลังของจิตที่จะมีกำลังมากขึ้นจะมีจาก..
มีศรัทธา มีความเพียร มีสติ มีสมาธิ มีปัญญา
ตัวที่จะเห็นชัดๆ ว่า(ทำให้)เกิดกำลังเนี่ย
ส่วนใหญ่จะหมายถึง “ตัวสมาธิ”
แต่จริงๆ แล้วทั้งหมดนี้เป็นกำลังทั้งหมด

มีศรัทธาก็ทำให้..จิตมีกำลัง
มีความเพียร..จิตก็มีกำลัง
มีสติ..จิตก็มีกำลัง
มีสมาธิ..จิตก็มีกำลัง
มีปัญญา..จิตก็มีกำลัง

พอมีปัญญาถึงขั้นสูงสุด
คราวนี้ไม่เสื่อมเลย
เราต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ
พัฒนาจากการเห็นกิเลสตัวเองไปเรื่อยๆ

บรรยายธรรมโดย
พระอาจารย์ กฤช นิมฺมโล​
???

เรียบเรียงจากการบรรยายธรรม
194-601118 ตัวขัดขวาง-สวนรรมธาราศัย
ลิงค์ไฟล์เสียง bit.ly/2pvKEqi
(นาทีที่ 55.29-56.13)

ถอดคำโดย ไนท์ ศิลา


อ่านบน Facebook