ถาม : ขอกราบเรียนถามว่าพุทธศาสนิกชนควรจะตั้งสัจจะเข้าพรรษาหรือไม่คะ ? แล้วถ้าจะตั้ง เราควรจะตั้งอย่างไรถึงจะเป็นไปเพื่อความก้าวหน้าและพัฒนาทางธรรมค่ะ ?
ตอบ : เรื่องเข้าพรรษา จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องของพระภิกษุ คือมีพระวินัยที่ให้พระภิกษุอยู่จำพรรษาในที่ที่เหมาะสม
ตลอดสามเดือนในฤดูฝน คือตั้งแต่ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ถึง ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑
เมื่อท่านอยู่ประจำในอาวาสนานเช่นนี้ ท่านก็ใช้เป็นโอกาสในการศึกษาและปฏิบัติธรรม เพื่อความเจริญในไตรสิกขายิ่ง ๆ ขึ้นไป
ฆราวาสญาติโยมผู้เป็นพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย เมื่อเห็นว่าพระภิกษุท่านใช้เวลาสามเดือนนี้ไปเพื่อความเจริญทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติเช่นนี้ ถ้าคิดว่า เราควรจะใช้เวลาสามเดือนนี้เพื่อความเจริญในกุศลธรรมของเราบ้าง ก็น่าอนุโมทนา
อย่างเช่นที่มีการรณรงค์ให้ ”งดเหล้าเข้าพรรษา” ก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี ทราบมาว่าหลายท่านก็ทำได้จริง
และยังงดอยู่อย่างต่อเนื่อง
แต่ชาวพุทธหลายท่านก็ไม่ได้ดื่มเหล้าอยู่แล้ว ก็ต้องหาเรื่องดี ๆ อย่างอื่นมาทำ
หลักก็มีอยู่ว่า ในสามเดือนนี้
– กุศลอะไรที่ไม่เคยทำ ก็ลองตั้งใจทำดู ทำให้กุศลนั้นเจริญขึ้นมา
– กุศลอะไรที่เคยทำแล้ว แต่ไม่มั่นคง ก็ทำให้จริงจังมั่นคง รักษากุศลนั้นไม่ให้เสื่อม
– อกุศลอะไรที่อยู่ เลิกไม่ได้สักที ก็ลองตั้งใจละเลิกอกุศลนั้นเสีย
– อกุศลอะไรที่เคยเลิกได้ แต่ไม่เด็ดขาด เผลอ ๆ ก็หวนกลับไปทำอีก ก็ลองตั้งใจพากเพียรระวังไม่ให้พลาดอีก
เช่น
– ไม่เคยไหว้พระสวดมนต์ ไม่เคยทำกรรมฐานในรูปแบบที่บ้านเลย ก็ตั้งใจทำใน ๓ เดือนนี้ให้ได้
– เคยไหว้พระสวดมนต์ และทำกรรมฐานในรูปแบบที่บ้านอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ประจำ ก็ตั้งใจทำให้เป็นประจำทุกวัน
ตลอด ๓ เดือนนี้
– เคยใช้โทรศัพท์มือถือไปในเรื่องไร้สาระวันละหลายชั่วโมง ก็ตั้งใจ ๓ เดือนนี้ จะละพฤติกรรมนั้น
จะใช้เฉพาะในเรื่องธุระการงานจริง ๆ
– เคยขึ้นเสียง เถียงพ่อเถียงแม่ หรือใช้คำพูดที่ทำให้กระทบกระเทือนจิตใจพ่อแม่ ก็ตั้งใจ ๓ เดือนนี้ แม้จะไม่ชอบ ไม่พอใจ หงุดหงิดมากแค่ไหน ก็จะไม่หลุดคำพูดเหล่านั้นออกมา จะเจริญสติดูความร้ายกาจของใจเราเอง
– ไม่เคยออกกำลังกายตอนเช้า ก็ตั้งใจ ๓ เดือนนี้จะตื่นเช้าขึ้นเพื่อมาออกกำลังกาย เจริญสติไปด้วย กายเคลื่อนไหว
มีใจรู้ อย่างนี้เป็นต้น
การทำอย่างนี้ บางคนใช้คำว่า “ตั้งสัจจะ” แต่อาตมาชอบใช้คำว่า ”อธิษฐาน” มากกว่า
อธิษฐาน ไม่ได้หมายถึงขอให้สำเร็จผลอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือขอเพื่อจะได้จะเอา แบบที่คนไทยทั่วไปใช้กัน
แต่อธิษฐาน ในทางพุทธศาสนา หมายถึง ความตั้งใจมั่น แน่วแน่ที่จะทำการให้สำเร็จตามจุดมุ่งหมาย ซึ่งเป็นบารมีอย่างหนึ่ง
ในบารมี ๑๐ เรียกว่า อธิษฐานบารมี
ในกรณีนี้ก็จะใช้คำว่า “สามเดือนนี้ ขออธิษฐาน (คือตั้งใจที่จะ)…” จะทำ จะเจริญ หรือจะละเลิกอะไร ก็เติมลงไป
ปีนี้ผ่านวันเข้าพรรษามาแล้ว จะทันไหม ?
ถ้าถือตามพระวินัย ถ้ามีเหตุจำเป็น อธิษฐานพรรษาในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ไม่ทัน ก็ให้เวลาอีก ๑ เดือน มาอธิษฐาน
“พรรษาหลัง” ในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๙ ก็ได้ แล้วอยู่จำพรรษาไปจนถึง ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒
โยมไม่ทันได้อธิษฐานเจริญกุศลในคราว “พรรษาต้น” จะมาอธิษฐานในคราว “พรรษาหลัง” ก็ยังได้ ระหว่างนี้ก็ซ้อม ๆ ไปก่อน
สำหรับคนเริ่มใหม่ ไม่เคยทำ และไม่แน่ใจว่าจะทำได้ไหม รู้สึกว่าสามเดือนนี่นานจัง ก็ขอแนะนำว่า ให้อธิษฐานเป็นชุด
ชุดละ ๓ วัน ครบ ๓ วัน ก็อธิษฐานใหม่
ทำอย่างนี้ง่ายดี ทำให้มีกำลังใจ อธิษฐาน ๒ ชุด ก็จะครบสัปดาห์แล้ว ไม่กี่สัปดาห์ก็จะครบเดือนแล้ว แปบเดียวก็ทำสำเร็จ
ครบ ๓ เดือน
ทำอย่างนี้ ถ้าพลาด ก็พลาดแค่วันเดียว รุ่งขึ้นก็อธิษฐานใหม่ สมมุติว่า ทำได้ ๓ วันแรก พอวันที่ ๔ พลาด วันที่ ๕ ก็เริ่มใหม่ อย่างไร ๆ ๓ วันแรกก็สำเร็จไปแล้ว ได้กุศลตุนไว้แล้ว ๓ วัน และเดี๋ยวจะมีความสำเร็จเพิ่มขึ้นมาอีกทีละชุด
ถ้าอธิษฐานทีเดียว ๓ เดือน ถ้าทำได้เป็นเดือนแล้วพลาดวันเดียว ก็อาจจะใจฝ่อห่อเหี่ยวไปเลย
และอาจจะรู้สึกว่าสามเดือนนี้สูญเปล่า
หมายเหตุ : วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๙ ปีนี้ ตรงกับวันอังคารที่ ๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐
๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐