#นิมฺมโลตอบโจทย์ ๒๒๐ #ทำไมหมาชอบมาหอนตอนเวลาทำวัตรสวดมนต์ ?? #ถาม : เวลาเปิดเสียงสวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็นทางทีวี ตอนกลางคืน แล้วเปิดดังมาก หมามาหอนที่บ้านประจำเลยค่ะ แล้วหมาที่อื่นก็จะมาหอนที่บ้านโยมตลอดเลยค่ะ อยากถามว่าทำไมเป็นอย่างนั้นคะ? #ตอบ : ไม่เป็นไรหรอก เปิดไป! มันคงอยากจะร่วมสวดมนต์ด้วยน่ะ! บางทีนะ คนเราเป็นนักปฏิบัติเนี่ยนะ แต่ปฏิบัติยังไม่ถึงที่ ปฏิบัติแล้วก็มีโมหะ มีความฟุ้งซ่าน ทำแล้วก็บางทีก็มีอกุศลอะไรบางอย่างเกิดขึ้น ไม่รู้ตัวนะ พอตายไปเนี่ยนะ กุศลมันไม่พอ มันไปเสวยอกุศลก่อน ไปเสวยวิบากในแง่ที่ไม่ดีก่อน บางทีก็กลายเป็นสุนัข สุนัขบางตัวเนี่ยนะ พอเกิดเป็นสุนัขแล้วเนี่ย ใจยังเป็นคนอยู่ คนพูดอะไรเนี่ยนะ ฟังรู้เรื่องหมดเลย แต่จะพูดสื่อกับคนให้รู้เรื่องนี่..พูดไม่ออก จะส่งเสียง อยากจะพูดอะไรกับคนเนี่ยนะ..มันได้แต่เสียงเห่า บางทีมีเสียงอย่างนี้ ได้ยินเสียงสวดมนต์นะ ก็อยากจะสวดมนต์กับเขาด้วยนั่นแหละ บางทีมันอยากจะสวดด้วย ให้นึกว่าเนี่ย มันก็เคยเป็นคนมาก่อน แต่ว่ามันเป็นคนที่ทำบุญยังไม่ถึงพร้อม เราได้ยินเสียงหมาหอนทีไรนะ ให้เตือนตัวเองเลยว่า.. “เราเป็นนักปฏิบัตินี่นะ! จะไม่พลาดให้เป็นอย่างนี้อีกแล้ว” คือเวลามีอะไรเกิดขึ้นกับใจ มีกิเลสเกิดขึ้นกับใจ เราจะรู้ทัน จะไม่ปล่อยเพลินหลงคิดยาว ๆ ไอ้หลงคิดยาว ๆ เนี่ยนะ เขาเรียกว่า ตกอยู่ในโมหะ สัตว์เดรัจฉานเนี่ย เป็นกลุ่มของสัตว์โลกประเภทที่มีโมหะมาก จะแบ่งกลุ่มของสัตว์โลกอย่างนี้นะ ว่ากิเลสตัวไหนเด่น? เช่น โทสะเด่น..พวกโทสะมาก ๆ นี้นะ ส่วนใหญ่แล้วจะไปเกิดเป็นสัตว์นรก พวกมีความโลภมาก ๆ อยากได้นู่นอยากได้นี่อยู่เรื่อย ๆ นี่นะ แล้วก็ไปทำผิดศีล ส่วนใหญ่ก็จะกลายเป็นเปรต พวกที่ถือตัวมาก ๆ มีความหวาดระแวง แล้วก็เจ้าความคิดเจ้าความเห็นนี่นะ แล้วเป็นพวกหวาดระแวงด้วย พวกนี้จะไปเป็นอสูรกาย พวกที่มีโมหะมาก ๆ หลงเพลิน ลองดูสิ! เวลาสุนัขมันนอน มันนอนไม่มีสติหรอก เพลิน ๆ แมวอยู่บ้าน..เคยเลี้ยงแมวไหม? แมวก็นั่งกระดิกหางไปเรื่อย ๆ มันไม่รู้สึกตัวหรอก มันเรียกว่า สะสมโมหะ พวกกลุ่มโมหะนี่..ก็จะกลายเป็น สัตว์เดรัจฉาน จะเห็นว่า สัตว์เดรัจฉานเนี่ยกลุ่มใหญ่ มีเพื่อนเยอะ แต่เราอย่าไปเป็นเพื่อนเขาเลย เราก็พัฒนาจิตใจตัวเอง ให้ดูว่าสัตว์พวกนี้นะ..น่าสงสาร บางทีก็เป็นคนที่ใฝ่ดีมาก่อน แต่ใฝ่ดีแบบหมดกำลัง กำลังของเขาน้อย ใฝ่ดีอยู่แป๊บเดียว ดีไม่นาน สติไม่มากพอ ไม่พอที่จะเห็นกิเลสที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะพวกสัตว์เดรัจฉานที่เราเห็นนี่นะ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกโมหะมาก พอโมหะมาก ตายไปพร้อมกับโมหะ ก็จะไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน พอเป็นสัตว์เดรัจฉานแล้ว รู้สึกถึงตัวเองแล้วเนี่ย.. “อ้าว! เราเคยยืนสองขา ต้องมายืนสี่ขา ต้องมาอยู่กับพวกที่เป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นตัวขวาง ๆ ด้วยกัน เวลาจะส่งเสียงคุยกับใคร ก็เคยพูดได้ ก็พูดไม่ได้แล้ว”..เขาจะตกใจเลยนะ! ทีนี้เวลาได้ยินเสียงธรรมะ หรือเสียงสวดมนต์เนี่ย มันจะเป็นการเตือนสติเลยว่า.. “โห! เสียงสวดมนต์แล้ว” บางทีเขาจะหอนรับดีใจ มันมีแง่นี้อยู่นะ! อย่าไปกลัวว่า.. “เอ๊ะ! ผีมาหรือเปล่า?” มีสุนัขบางตัวนี่นะ ครูบาอาจารย์เคยเล่าให้ฟังว่ามันรู้สึกตัว เหมือนเป็นคนที่ฝึกสติมา แต่พลาดยังไงก็ไม่รู้? กลายไปเป็นสุนัข ตอนมันอยู่นี่นะ มันจะพยายามทำบุญ เวลาคนให้อาหาร ถ้ามีแมวมา..มันจะยังไม่กิน จะให้แมวกินก่อน ถ้ามีนกมา..มันยังไม่กิน ให้นกกินก่อน.. รู้จักให้ทาน ไม่ส่งเสียงเห่าพร่ำเพรื่อ รู้จักรักษาวาจาของมัน ไม่ส่งเสียงกวนใครพร่ำเพรื่อ จะเห่าเหมือนกัน เพราะสุนัขก็ต้องเห่าใช่ไหม? เวลามีคนมาหน้าบ้าน ดูท่าทีแล้ว ดูไม่ดี..ก็เห่า เพื่อให้เจ้าของได้รู้ว่ามีคนมา ประมาณนี้นะ ทำหน้าที่อย่างนี้ แต่ว่าไม่ใช่เห่าน่ารำคาญ เป็นสุนัขที่มีมารยาทดี แสนรู้ เลี้ยงง่าย รู้จักให้ทาน เวลามีอะไรให้สัตว์อื่น สัตว์อื่นที่ดูอ่อนแอกว่าก็เอื้อเฟื้อ ตอนตายเนี่ย ตายด้วยความรู้สึกตัว #ถาม : สุนัขบ้านโยมมันใจร้ายค่ะ #ตอบ : ก็เป็นพวกที่มีโมหะด้วย แล้วก็ใจร้ายด้วย #ถาม : มันฆ่าแมวค่ะ..บอกมันว่าทำไมใจร้ายจัง #ตอบ : ให้อภัยมัน มันประเภทว่า สติยังไม่ค่อยดี ก็สั่งสอนมันไปนะ ค่อย ๆ สอนมันไป จริง ๆ แล้วคือ ที่อยากจะบอกก็คือว่า ให้ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ในรอบตัวเนี่ย ให้มันเตือนตัวเอง ไม่ใช่ได้ยินเสียงหมาหอน แล้วก็สงสัยว่า.. “เอ๊ะ! มันเกิดอะไรขึ้น จะมีใครมา? หรือมันปวดหูหรือเปล่า?” แล้วก็ไปปิดเสียงสวดมนต์ซะ อย่างนี้นะ ในกรณีนี้ ให้มันเตือนตัวเองว่า.. สัตว์จริง ๆ แล้วเนี่ย มันก็คือเคยเป็นคน เทวดาทั้งหลายก็เคยเป็นคน เปรตทั้งหลายก็เคยเป็นคน สัตว์นรกทั้งหลายก็เคยเป็นคน แต่ว่าคนที่ทำกรรมต่างกัน ทำกรรมอะไรไว้ มันก็รับวิบากแบบนั้น ทำกุศลกรรม ก็ได้รับวิบากที่เป็นกุศล ทำกุศลกรรม ถ้าตายด้วยกุศล.. ก็จะไปเป็นเทวดา ถ้าทำอกุศลไว้มาก ตายไปแล้ว ก็เสวยวิบากที่เป็นอกุศล ก็กลายเป็น สัตว์เดรัจฉาน, เป็นเปรต, เป็นอสุรกาย, เป็นสัตว์นรกอย่างนี้เป็นต้น เรียกว่า อยู่ในทุคติ เหล่านี้ล้วนเคยเกิดเป็นคน แล้วเราก็ตอนนี้ขณะนี้เป็นคนอยู่ เวลาเขามีปฏิกิริยาอะไรเกี่ยวกับโลกนี้ ก็เตือนตัวเอง :- เราจะไม่โกรธ..ถ้าโกรธก็จะรู้เร็วๆ ไม่สร้างเหตุที่จะเป็นสัตว์นรก เราจะไม่โลภ.. ถ้าโกรธก็จะรู้เร็วๆ ไม่สร้างเหตุที่จะกลายเป็นเปรต เราจะไม่หลง.. ถ้าหลงก็จะรู้เร็วๆ ไม่สร้างเหตุที่จะกลายเป็นสัตว์เดรัจฉาน ถ้ากิเลสมันเกิดขึ้นแล้ว ให้รู้ทันไว ๆ เพราะเราเป็นปุถุชน ย่อมมีความโลภ, มีความโกรธ, มีความหลงอยู่เป็นปกตินะ ถ้ารู้ทันไว ๆ ความโลภ, ความโกรธ, ความหลงทั้งหลายก็จะไม่มีอิทธิพลมาครอบงำใจเรา ฉะนั้น แม้จะมีกิเลสอยู่เป็นปุถุชนธรรมดาที่มีกิเลสนะ อาศัยกิเลสนั้นพัฒนาจิตใจตัวเอง อย่าให้กิเลสครอบงำ แล้วทำให้ไปสร้างกรรม แล้วเราจะกลายเป็นผู้เสวยวิบากแห่งกรรมที่เป็นอกุศลเหล่านั้น ดูตัวอย่างสุนัขแมวที่เราอยู่ใกล้ชิดนี่แหละ ให้เตือนตัวเองอยู่เรื่อย ๆ ว่า สัตว์ในภพอื่นก็มี เห็น ๆ กับตานี่คือ พวกสัตว์เดรัจฉานนั่นเอง แล้วเราจะฉลาดมากขึ้น แล้วก็จะมีฉันทะที่จะประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อป้องกันตนเอง เรียกว่า สร้างฉันทะเพื่อมีหิริและโอตตัปปะด้วย เห็นเขาเป็นทุกข์ ก็ไม่อยากจะเป็นทุกข์อย่างนั้น มีหิริ คือมีความละอายใจต่อการทำบาป มีโอตตัปปะ คือมีความเกรงกลัวต่อการรับผลของบาป ใช้สิ่งที่ปรากฏอยู่รอบตัวเป็นประโยชน์ เพื่อเตือนตน และพัฒนาตนนะ พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล เรียบเรียงจากการตอบปัญหาธรรม ในรายการ “ธรรมะสว่างใจ” วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ลิงค์วีดีโอ https://youtu.be/FKI7va98dI0 (นาทีที่ 1:43:05 – 1:52:14) Shortlink: March 1, 2020นิมฺมโลตอบโจทย์admin อ่านต่อFacebookTwitterLine