#นิมฺมโลตอบโจทย์ ๒๒๒ #ทำไมรูปงามรวยทรัพย์แต่ไร้คู่ ?? #ถาม​ : หลวงพ่อ(พระอาจารย์กฤช)พูดว่า​..รูปงามเพราะว่ารักษาศีลมาใช่ไหมคะ? ตัวหนูเองเนี่ย! ก็รูปงามรวยทรัพย์นะคะ​ แต่ว่าคือชีวิตคู่นี่​ ไม่ประสบความสำเร็จเลย​ แต่ทำไมเพื่อน​ ๆ​ ที่หน้าตาหรืออะไร​สู้เราไม่ได้สักอย่างเลย​ แต่เขา​เจอคนดี​ เจอกัลยาณมิตรที่ดี​ อยากจะถามว่า​ สาเหตุเป็นเพราะอะไรค่ะ? ปัจจุบันก็รักษาศีลอยู่​ #ตอบ​ : มันมีหลายสาเหตุ​ จะระบุไปเลยเนี่ยยาก​ เพราะว่าอาตมาก็ไม่ได้มีญาณหยั่งรู้โดยละเอียด​ไม่เหมือนพระพุทธเจ้า​ แต่ที่แน่​ ๆ​ เอาอย่างนี้ดีกว่า​ ไหน​ ๆ​ เราก็อยู่คนเดียวแล้วเนี่ย​ เอาความเป็นอยู่คนเดียวเนี่ย..เอามาทำประโยชน์​ ก็คือ​ “ดีแล้ว​ เราได้อยู่คนเดียว​ เวลาเหลือเฟือ” เมื่อก่อนนี้อยู่กันมีคู่​ ก็ต้องคิดเผื่อคนนู้นคิดเผื่อคนนี้​ เราอยู่คนเดียวก็ดีแล้ว​ คนที่เขามีคู่อยู่นี่นะ​ บางทีเขาอาจจะกำลังมีปัญหา..แต่เราไม่รู้อยู่ก็ได้​ เอานี้ดีกว่า​ เราอยู่คนเดียวเนี่ย​ เราก็อยู่คนเดียวให้ได้ด้ว​ย​ นึกออกไหม? ใช้ความเป็นอยู่คนเดียวเนี่ย​ ภาระมันลดน้อยลงไป..ก็ใช้ประโยชน์ตรงนี้ ​เอามารักษาศีล​ เจริญภาวนา​ ทำสมถะ ทำวิปัสสนาของเราให้เต็มที่​ได้ง่ายขึ้น​ จะอยู่วิเวกก็ง่าย​ จะทำอะไรก็สะดวก​ เพราะว่าไม่ต้องมาคอยทะเลาะ​ หรือว่าไม่ต้องคอยขออนุญาตใคร​ นึกออกไหม? คนโสดหรือคนที่เคยแต่งงานแต่มาอยู่คนเดียว​ ก็จะมีข้อดี​ของการอยู่คนเดียวแบบคนไม่มีภาระอะไร​ผูกพันมาก ให้มันเห็นประโยชน์ของการมีชีวิตแบบนี้ เขาเรียก​มี​ “โยนิโสมนสิการ” นึกออกไหม? โยนิโสมนสิการ คือ การคิดถูกวิธี คิดให้เห็นประโยชน์ กรณีนี้ ก็คิดใช้ชีวิตขณะนี้ให้มันเป็นประโยชน์ของเราเลย​ ไม่ใช่ไปอาลัยอาวรณ์กับชีวิตคู่ หรือว่า​มัวแต่มองหาใครจะมาทดแทนตรงนี้ดี​ อะไรอย่างนี้​ ถ้าเรามัวแต่มองหานะ..ก็เสี่ยงเหมือนกันที่จะถูกคนอื่นมาหลอกลวงอีก​ นึกออกไหม?​ เพราะเราเป็นพวกมีรูปงาม มีทรัพย์ด้วย ถ้าเราเป็นพวกแสวงหานี่นะ..มันง่ายมากที่เขาจะมาหลอก เพราะฉะนั้นให้พอใจที่เราจะอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวก็ได้​ ไม่ง้อใคร เข้าใจไหม? คุณค่าของชีวิต..มันไม่ได้ว่าจะต้องมีคู่​ หรือว่าต้องมีใครมานั่งข้าง​ ๆ​ คุณค่าของชีวิต คือว่า..สามารถเป็นอยู่ได้​ แม้อยู่คนเดียวก็ไม่เดือดร้อน​ สามารถทำตนให้เป็นประโยชน์กับตน​เอง กับสังคม​ และคนรอบข้างได้ คุณค่าของชีวิตมันเป็นอย่างนี้..คือมีประโยชน์หรือเปล่า?​ ชีวิตนี้มีประโยชน์ไหม? #ถาม​ : แล้วจิตที่ไปอิจฉาเพื่อนอะไรอย่างนี้ล่ะคะ? #ตอบ​ : อันนั้น​ ต้องให้รู้ทัน​ เขาจะมีความสุขหรือเปล่า?..ยังไม่แน่ แต่ตอนนี้จิตของเราเนี่ย..ไม่ดี​ ชีวิตเขาจะดีหรือเปล่า?..ไม่แน่ใจ ตอนใจตอนนี้..ไม่ดี ให้รู้ทันใจตัวนี้​ ที่ริษยาเขา​ นึกออกไหม? ถ้าเรามัวแต่ริษยาเขาเนี่ยน​ะ ความปรุงแต่งใจที่ไม่ดีตัวนี้..มันครอบงำใจเราอยู่​ เป็นทุกข์อยู่คนเดียว ถ้าเขามีความสุข..เห็นความสุขของเขา​ แทนที่จะอนุโมทนา..กลายเป็นริษยา​! ดูใจตัวนี้ดีกว่า ถ้าอนุโมทนาไม่ได้…ก็ให้เฉย​ ๆ​ อุเบกขาเอาไว้ ตัวสำคัญคือ..ถ้าเราไปมัวใฝ่หาคู่นะ​ ไอ้ความใฝ่หาเนี่ย..มันคล้าย​ ๆ​ กับ..แม่ค้าอยากขายของ​! แม่ค้าอยากขายของเนี่ย..ลูกค้ามองออกก็ต่อราคา​ แล้วบางทีก็ราคาถูกลดลงมาเรื่อย​ ๆ​ ไอ้เราก็อยากขายก็..​ “เออ​ ๆ​ เท่านี้ก็ได้” อะไรอย่างนี้นะ ประมาณว่า​ ลูกค้าไม่เห็นคุณค่าของสินค้าเรา​ แต่ถ้าเราสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง​ อยู่คนเดียวก็ได้​ ไม่ง้อใคร​ สามารถบำเพ็ญประโยชน์ส่วนตนก็ได้​ บำเพ็ญประโยชน์คนอื่นก็ได้​ ไม่ง้อใครเนี่ยนะ..เขาต้องมาง้อเรา เรามีโอกาสเลือกได้​ ว่าเราเนี่ยเหมือนเป็นสินค้าที่ไม่ง้อลูกค้า​ ไม่ง้อคนซื้อนะ​ เราก็สามารถเลือกได้​ ประมาณว่า..ถ้าคนนี้ไม่ดีจริง​ เราก็​มีปัญญาพอที่จะสอดส่องว่าเขาดีหรือไม่ดี? แต่ถ้าเราไขว่คว้าอยากได้เนี่ยนะ..เหมือนสินค้าอยากขายอะ พอสินค้าอยากขาย..ก็ไม่เลือกแล้ว​! “ขอให้มีคนซื้อเถอะ​ ฉันจะรีบขายเลย” มัน​อาจจะได้ลูกค้าที่ไม่ดีก็ได้​ มันก็อาจจะวางทิ้งที่ซอกหลืบไหนก็ได้ นึกออกไหม? ฉะนั้น เราต้องสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง​ ไม่ต้องง้อให้ใครมาอยู่ด้วย​ สำหรับกรณีแบบนี้นะ​ ก็คืออยู่คนเดียว​ มีทรัพย์อยู่แล้วเนี่ย..ยิ่งดีเลย ก็ใช้ทรัพย์นั้นทำประโยชน์ตนและสังคม ถ้าไม่มีภาระเรื่องการเลี้ยงดูลูกหลานเนี่ยนะ..ก็ใช้ทรัพย์ที่เป็นประโยชน์กับคนอื่นต่อได้​ โรงพยาบาลยังขาดเครื่องมืออะไร..เราช่วยสนับสนุน อย่างนี้​เป็นต้น เราก็ได้มีความภูมิใจ​มีความดีใจ​ที่ทรัพย์ของเราไปเป็นประโยชน์กับคนหมู่มาก​ คนมาใช้บริการโรงพยาบาล​ ได้ใช้เครื่องมือที่เราบริจาค​ ​.. “โอ้! ดีใจ​ รู้สึกดีใจ” หรือตอนนี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ต้องสู้กับไฟป่า สู้กับการเผาป่า​ มีเครื่องมืออะไรที่จะช่วยเจ้าหน้าที่ให้เขาได้ทำหน้าที่ได้ง่ายขึ้น​ หาเครื่องมือไปสนับสนุน อย่างนี้เป็นต้น เราอยู่คนเดียว​ ก็สามารถมีความภูมิใจในผลงานหรือผลบุญของเราได้​ ไม่ต้องให้ใครมาคอย​พะเน้าพะนอ​ ก้อร่อก้อติกอะไรกับเรา..ไม่จำเป็นเลย..นี่เป็นความสุขที่มีโทษมาก บางทีตอนนี้เขาดีกับเรา​ เพราะเขาเห็นเราสวย​ เรารวย​ แต่พอเขาไปเจอใครที่​สดกว่า​อะไรอย่างนี้..เขาอาจจะไปหาคนนู้นนะ เราก็มัวแต่คอยง้อเขานี่ เราก็มีโอกาสเสียใจ​ เสียน้ำตา​ ​เสียทรัพย์ด้วย​ จงสร้างความภูมิใจในบุญของตนเอง​ และก็ให้พึ่งตัวเองให้ได้​ อยู่คนเดียวให้ได้​ แล้วก็สร้างคุณค่าให้ชีวิต ด้วยการรักษาศีล​ เจริญภาวนา​ ให้ทาน​ มีน้ำใจกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน​ เอื้อเฟื้อกับคนในสังคม​ด้วยกัน​ เวลาพูดกับใคร​ ก็พูดด้วยวาจาอ่อนหวาน​ สมานสามัคคีกัน​ ทำตนให้มันมี​ญาติหรือมีเพื่อน​ ๆ​ แวดล้อม​คอยรักษาเรา​ มีมิตรที่ดี​ มีกัลยาณมิตรคอยดูแลรักษา​ ไม่ต้องไปหวังให้ใครคนใดคนหนึ่ง​มาคอยดูแลรักษาเรา​ เราต้องการใครสักคนมาดูแลเราอยู่ใกล้​ ๆ​ นะ​ แต่บางทีเราอาจจะต้องกลายเป็นผู้ทุ่มเวลาและทรัพย์สินรักษาเขาด้วย​ นึกออกไหม? กลายเป็นว่า อยากจะมีที่พึ่ง..แต่กลับก็ต้องดิ้นรน​ ต้องทุกข์ ต้องร้องไห้ ให้กับบุคคลที่เราหวังพึ่งนั้น ถ้าเป็นแบบนี้​ ให้เรามีคุณความดีของเราเอง​ มั่นใจในตัวเองอย่างนี้ดีกว่า​ มีบุญของเราเป็นเครื่องป้องกันรักษาตัวเอง​ มีเพื่อนที่เป็นกัลยาณมิตรรอบตัว ที่คอยดูแลในคราวที่เราต้องการความช่วยเหลือ .. อย่างนี้ดีกว่า ..! พระอาจารย์กฤช​ นิมฺมโล เรียบเรียงจากการตอบปัญหาธรรม ในรายการ​ “ธรรมะสว่างใจ” วันที่​ ๒๒​ มกราคม ๒๕๖๓ ลิงค์วีดีโอ https://youtu.be/E7HpvEzlYYo (นาทีที่​ 29:12 -​ 37:46)

อ่านต่อ