#นิมฺมโลตอบโจทย์ #หัวใจเศรษฐี #อุอากะสะ #ถาม : โยมจะสอบถามเกี่ยวกับเรื่อง “ลาภลอย” บางคนถูกหวยบ่อยๆ แต่บางคนไม่ถูกเลย เป็นเพราะอะไรเจ้าคะ? #ตอบ : โอ้! แสดงว่าไม่ได้ให้ทานเอาไว้ ไม่ได้สงเคราะห์คนยากคนจน ไม่ได้ช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก ..ประมาณนี้ คือ เวลาคนเขาเดือดร้อน เราไม่ได้ไปทำเซอร์ไพรส์ (surprise) เขา (surprise แปลว่า ทำให้ตื่นใจ, ประหลาดใจ, ไม่คาดคิดมาก่อน) เวลาเราจะถูกหวย หรือว่าจะถูกลาภลอยใหญ่ๆ มันต้องระดับเซอร์ไพรส์นะ เวลาเราไปช่วยใคร แล้วเขาปลื้มมากเลยนะ ในการที่เขาได้รับความช่วยเหลือจากเรา มันก็จะเป็นเหตุให้เรา เวลาจะได้ลาภ ก็จะได้ลาภแบบเซอร์ไพรส์ ๆ ทีนี้ไอ้บุญพวกเรา มันทำแบบเนิบๆ มันก็ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ ก็เป็นไปตามเหตุที่ทำนั่นล่ะ ถ้าเอาจริงๆ นะ “ไม่ต้องไปหวัง” อย่า! ไปหวังลาภแบบประเภทนี้ ลาภที่ว่า “จากการพนัน” นะ มันเอาแน่ไม่ได้!! ถ้าหวังจะมีกินมีใช้ให้.. ๑. ขยันหา ๒. รักษาไว้ให้ดี ๓. มีกัลยาณมิตร ๔. เลี้ยงชีวิตชอบ “อุ อา กะ สะ” คือหัวใจเศรษฐี ซึ่งนำมาจาก “ธรรมที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ปัจจุบัน (ทิฏฐธัมมิกัตถสังวัตนิกธรรม)” ได้แก่ ๑. อุ – อุฏฐานสัมปทา มีความถึงพร้อมด้วยความขยันหมั่นเพียรในการปฏิบัติการงานและการประกอบอาชีพที่สุจริต รวมถึงใช้ปัญญาหาวิธีที่จะทำงานนั้นให้สำเร็จ ๒. อา – อารักขสัมปทา ถึงพร้อมด้วยการรักษา เมื่อหามาได้ ก็ต้องรู้จักรักษาเอาไว้ ไม่ใช่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย คุ้มครองโภคทรัพย์และผลงานที่ทำมาด้วยหมั่นเพียรนั่นแหละ ๓. กะ – กัลยาณมิตตตา คบคนดีเป็นมิตร คือ คบเพื่อนดีด้วย เพื่อนที่มีน้ำใจ ร่วมสุขร่วมทุกข์ และเตือนเราได้ในคราวที่เราประมาท อย่าไปคบเพื่อนชวนเที่ยวกลางคืน ชวนใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย หรือว่าคบเพื่อนที่ชวนให้ไปอบายมุข ๔. สะ – สมชีวิตา เลี้ยงชีวิตให้พอสมควร มีความเป็นอยู่เหมาะสมแก่ฐานะของตัวเอง เช่น มีรายได้หมื่น ก็อย่าไปใช้จ่ายเป็นแสน จัดสรรรายได้หนึ่งหมื่นนี้ ให้พอเลี้ยงชีพ ในการที่จะเลี้ยงตัวเองให้ผ่านไปให้ได้ ให้มีรายได้มากกว่ารายจ่าย อย่าใช้จ่ายเกินตัว รู้จักประหยัด แล้วก็กลับไปข้อ ๑ ใหม่.. ขยันหา หามาได้..รักษาให้ดี ๆ รักษาให้ดี ๆ ไม่ใช่ว่าจะไม่ใช้เลยนะ ใช้ ..ใช้แต่ให้มันสมเหตุสมผล พอสมควรแก่ฐานะของตัวเอง อะไรจำเป็นต้องใช้..ก็ใช้ ไม่ใช่ว่าจะไม่ใช้เลย แล้วก็ข้อสำคัญข้อ ๓. คือ “กัลยาณมิตตตา” ก็คือคบเพื่อน “คบเพื่อน” เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญเลยว่า “เราจะไปดี หรือ ไปร้าย?” ก็คือ เพื่อนเนี่ยจะพาเราไป เราคบเพื่อนดี มันก็พาเราไปดี คบเพื่อนชั่ว มันก็พาเราไปชั่ว คบเพื่อนสำมะเลเทเมา มันก็พาเราไปสำมะเลเทเมา คบเพื่อนใช้จ่ายมาก ถ้าเราไปอยู่กลุ่มนี้นะ แล้วเราไม่จ่ายนะ เราก็ชักอึดอัดใช่ไหม? ก็ต้องดูว่า การคบเพื่อนของเรา.. – เราคบเพื่อนเหมาะกับฐานะเราไหม? – มันเป็นไปเพื่อความเจริญไหม? ถ้าเราอยู่ในฐานะเลือกได้ เช่นเป็นผู้บริหาร ก็ต้องเลือกบุคคลที่จะมาร่วมงานด้วย เพราะฉะนั้น การคบเพื่อนดี นอกจากจะไม่ใช่เพื่อนในระดับประเภทว่าอายุเท่าๆ กันนะ แม้แต่ว่าจะเป็นครูบาอาจารย์นี้ก็เป็นเพื่อนนะ เรียกว่า “เป็นกัลยาณมิตร” เพื่อนนี้ไม่ได้หมายความว่า เป็นเพื่อนร่วมเรียนร่วมชั้นเท่านั้นนะ พระพุทธเจ้า.. พระองค์ยังตรัสว่า พระองค์เป็นกัลยาณมิตรของทุก ๆ คน ใน”อุปัฑฒสูตร” สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ข้อที่ว่าความเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี เป็นพรหมจรรย์ทั้งหมด ทีเดียวนั้นพึงทราบโดยปริยายนี้ ด้วยว่าเพราะอาศัยเราผู้เป็นมิตรดี เหล่าสัตว์ผู้มีชาติ (ความเกิด) เป็นธรรมดาย่อมพ้นจากชาติ ผู้มีชรา (ความแก่) เป็นธรรมดาย่อมพ้นจากชรา ผู้มีมรณะ (ความตาย) เป็นธรรมดาย่อมพ้นจากมรณะ ผู้มีโสกะ (ความเศร้าโศก) ปริเทวะ (ความคร่ำครวญ) ทุกข์ (ความทุกข์กาย) โทมนัส (ความทุกข์ใจ) และอุปายาส (ความคับแค้นใจ) เป็นธรรมดาย่อมพ้นจากโสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส” เพราะฉะนั้นการคบเพื่อน ไม่ใช่ว่าจะเป็นแค่เพื่อนในรุ่นเดียวกัน เพื่อนต่างเจเนอเรชั่น (generation แปลว่า รุ่น) ก็ได้ เพราะฉะนั้น ‘คบครูบาอาจารย์’ ก็เป็นการ ‘คบเพื่อน’ ในแง่ของ ‘กัลยาณมิตร’ เหมือนกัน คือ.. – เป็นผู้ที่จะคอยตักเตือน – ที่จะคอยแก้ปัญหาให้ – หรือชี้ช่องทาง ให้เราเกิดปัญญาขึ้นมา – บอกทางพ้นทุกข์ให้เราได้ ประมาณนี้ การคบเพื่อนที่สามารถทำให้เราเจริญขึ้นเนี่ย ควรหา “กัลยาณมิตร” ในแง่นี้ พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล เรียบเรียงจากตอบปัญหาธรรม รายการธรรมะสว่างใจ ออกอากาศวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๔ ลิงค์รายการ https://www.youtube.com/watch?v=RVsLogVc3S4 (นาทีที่ 1.47.00 – 1.51.24)

อ่านต่อ