#นิมฺมโลตอบโจทย์ #กายป่วยใจไม่ป่วย #ติดโควิด #ทุกขเวทนา #ถาม: โยมติดโควิด! ช่วงที่อาการหนัก เกิดทุกขเวทนามาก ปวดหัว ปวดตัว ควรภาวนาอย่างไรเมื่อป่วยไข้? #ตอบ: กินยา.. มียาไหม? มียาแผนปัจจุบันก็กินยาได้นะ ถ้าโรงพยาบาลจ่ายยามา..ก็กินยาโรงพยาบาล ถ้าไม่ได้รับยาจากโรงพยาบาล ก็หายากินเอง .. เช่น ฟ้าทะลายโจร ทีนี้เมื่อกินยาแล้ว ทุกขเวทนาก็ยังไม่ดับทันที ใช่ไหม? เกิดทุกขเวทนา ก็ดูเวทนา เจริญเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน ก็ได้ หรือถ้าทุกขเวทนามาก ดูไม่ไหว.. ก็ดูจิต “ถ้าดูทุกขเวทนาได้ ให้ดูทุกขเวทนา ถ้าดูไม่ไหวให้ดูจิต” ดูจิต..ก็ดูในแง่ที่ว่า.. เวลามีทุกขเวทนา ใจไม่ชอบ.. ให้รู้ “ความไม่ชอบ” มีทุกขเวทนา แล้วเกิดโทสะ ให้รู้ทัน”โทสะ” มีเวทนาแล้วกังวลว่า.. ‘ปอดเราจะไปถึงไหนแล้วเนี่ย!!’ ก็ให้รู้ทัน “ความกังวล” มันสามารถภาวนาได้ แล้วในที่สุดก็หาย ‘ถ้าเราป่วย.. อย่าให้ใจป่วย’ บอกกับตัวเองอย่างนี้นะ! “กายจะป่วย ใจอย่าป่วย” แล้วเราก็เจริญสติ ดูความจริงของมันต่อไป แล้วโรคมันก็แสดงไตรลักษณ์ให้ดูอยู่ดี มันมีแล้วก็ไม่มี มีแล้วก็หาย หายก็คือไม่มี มีแล้วก็หาย เพียงแต่ว่า.. ในระหว่างที่มันมีทุกขเวทนา อย่าให้ทุกขเวทนานั้นกลายเป็นทุกข์สองต่อ คือ มันเป็นทุกขเวทนาทางกาย แล้วอย่าให้ใจเป็นทุกข์ด้วย บอกกับตัวเองไว้ก่อนอย่างนี้ก็ได้ คอยเตือนตัวเองว่า “กายทุกข์แล้ว อย่าให้ใจทุกข์ด้วย” ประมาณว่า.. “แยกขันธ์” นั่นเอง! แยกขันธ์.. เวลาเห็นกายเป็นทุกข์ ใจไม่เป็นทุกข์ นี่ก็แยกขันธ์เลย เห็นทุกข์.. เป็นทุกข์ ตรงนี้เห็นเวทนา ตอนเห็นร่างกาย.. มีความเคลื่อนไหวของร่างกายเนี่ยนะ เราดูที่ความเคลื่อนไหว ไม่ได้มาเน้นตัวเวทนา เวทนาไม่เด่น ก็ดูร่างกายได้อยู่ หรือว่าทุกขเวทนามันเด่นขึ้นมา มันชวนให้จิตไปดู แล้วไปจมกับทุกข์ ก็กลายเป็นว่า.. แทนที่จะไปจมกับทุกข์ ให้มาดูจิตที่มันไม่ชอบ ดู“ความไม่ชอบ” ตอนดูเวทนาเนี่ย..เวทนาไม่ดับ ! แต่ดูความไม่ชอบ..ความไม่ชอบดับ !!ความไม่ชอบเป็นกิเลส เห็นความไม่ชอบ..ความไม่ชอบดับ เวทนาก็เกิดอีก เห็นเวทนา เวทนาไม่ดับ มีความรำคาญใจ รู้ทันความรำคาญใจ ความรำคาญใจดับ! ดูกายต่อไป เวทนามาอีกแล้ว รู้เวทนา เวทนาก็ไม่ดับ กังวลใจ รู้ทันความกังวล ความกังวลดับ! อาศัยเวทนานี่แหละ แล้วใจก็ไปอินกับเวทนาบ้าง หรือว่าไปรู้จิตบ้าง แล้วมันแสดงความจริง ตอนแสดงความจริงเนี่ย ดูจิตจะแสดงความจริงได้ง่าย เพราะว่าทุกครั้งที่มีเวทนามักจะมีกิเลส เป็นกิเลสในกลุ่มโทสะ เช่น ไม่ชอบใจ กังวล มีความหงุดหงิด อะไรอย่างนี้นะ รู้ทันมันไป! แล้วเวทนาเนี่ยนะ กลายเป็น back ground (เบื้องหลัง) ไม่มีผลอะไรมาก กลายเป็นว่า.. ไอ้กิเลสต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาเนี่ย แสดงไตรลักษณ์ทุกครั้งเลย ถ้าเราดูด้วยใจที่เป็นกลาง ฉะนั้น เมื่อป่วยไข้ อย่าไปดูที่ทุกขเวทนา แบบประสงค์จะให้มันดับ ดูทุกขเวทนาก็เป็นแค่เวทนา ถ้าดูได้ก็ดูไปก่อน ถ้ามันดูไม่ได้ จิตหงุดหงิดขึ้นมา ก็ให้ดูความหงุดหงิดที่เกิดขึ้น ดูกิเลสที่จิต ดูจิตนี่แหละ แล้วกิเลสในจิตมันแสดงไตรลักษณ์ให้ดู แบบนี้ง่ายกว่า! พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล เรียบเรียงจากตอบปัญหาธรรม รายการธรรมะสว่างใจ ออกอากาศวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ลิงค์รายการ https://m.youtube.com/watch?v=I9ZFh08tKiE&feature=youtu.be นาที 1:39:01 – 1:43:48″ ลิงค์ https://youtu.be/I9ZFh08tKiE

อ่านต่อ