#นิมฺมโลตอบโจทย์ #จิตสุดท้ายก่อนตาย #อาสันนกรรม #ถาม : “จิตสุดท้ายก่อนตาย” สำคัญที่สุดที่จะไปเกิดที่ไหน แล้วผลของกรรมที่กระทำตอนมีชีวิตอยู่จะไปให้ผลตอนไหน? #ตอบ : คือกรรมที่ว่า “จิตสุดท้าย” เนี่ย เรียกว่า “อาสันนกรรม” “อาสันนกรรม” เป็นกรรมข้อที่ ๓ ในกลุ่ม..ในชุดที่จำแนกตามความรุนแรง หรือความแรง (๑) ข้อแรกในกลุ่มนี้ เรียกว่า “ครุกรรม” กรรมหนัก ก็จะมีทั้งในแง่ดี และแง่ร้าย ก็คือ ในแง่ดีก็เป็น “สมาบัติ ๘” ในแง่ร้ายก็เป็น “อนันตริยกรรม” อันนี้คือแรงสุด.. ให้ผลก่อน ลำดับถัดมาก็คือ (๒) “อาจิณณกรรม” คือ กรรมที่ทำจนชิน เรียกว่า.. ถ้าไม่มีครุกรรม กรรมอันนี้จึงจะให้ผลก่อน กรรมที่ทำจนชิน ก็มีทั้งในแง่ดี-แง่ร้าย ถ้าไม่มีอะไรชิน.. ก็คือว่าชีวิตไม่มีดีเด่น ไม่มีเลวเด่น ชีวิตเรื่อยๆ เปื่อยๆ ก็มาตัดสินเอาตอนใกล้ตาย (๓) กรรมตอนใกล้ตาย เรียก “อาสันนกรรม” เรียกได้ว่า.. เมื่อไม่มีสองข้อแรกเนี่ย “อาสันนกรรม” ก็จะให้ผลก่อน หมายความว่า ถ้ามี “ครุกรรม” คือทำอะไรที่ร้ายแรงเอาไว้ ..เป็น “อนันตริยกรรม” เอาไว้นะ ก็ไม่ต้องมารอดูจิตตอนใกล้ตาย เพราะตัว “ครุกรรม” เนี่ยจะเป็นตัวตัดสินไปแล้ว คือตัดสินว่าให้ผลก่อนไปแล้ว หรือว่ามี “อาจิณณกรรม” ทำบาปมาตลอดชีวิต จะมาบอกทางสวรรค์ตอนใกล้ตาย..ไม่ไป! เพราะจิตไม่ชินที่จะคิดเรื่องดี ๆ ถึงเราจะพยายามบอก “สัมมาอะระหัง” นะ หรือว่า “ไปไหว้พระเกศแก้วจุฬามณีนะ” เขาก็จะถามกลับมาว่า “มันเป็นยังไง?!? คืออะไร? ไม่รู้จัก!!” เข้าใจไหม? มันช่วยไม่ได้! เพราะมันเคยชินที่จะคิดไม่ดีไปแล้ว บางทีมาโกรธเราด้วยนะ! “บอกอะไร? ฟุ้งซ่าน..! เพ้อเจ้อ!” อะไรอย่างนี้.. จิตสุดท้ายเนี่ย มันจะใช้ตอนที่ว่าไม่มีสองข้อแรก เรียกว่า “อาสันนกรรม” เนี่ย จะใช้ตอนไม่มีสองข้อแรก เป็นกรรมใกล้ตาย ซึ่งก็มีพุทธพจน์ที่เราเคยได้ยิน คุ้นๆ ก็คือ “ถ้าจิตเศร้าหมองแล้ว ก็เป็นอันหวังได้ว่า จะไปทุคติ ถ้าจิตไม่เศร้าหมอง ก็เป็นอันหวังว่าจะไปสุคติ” ก็คือจะมาใช้ในกรณีนี้ นี่คือเป็น “อาสันนกรรม” ทีนี้ ถ้าสมมติว่า.. เขาทำจิตตอนใกล้ตายได้ดี ไปเกิดในสุคติ แต่อกุศลกรรมที่ทำเอาไว้ ก็ยังให้ผลอยู่ เช่น มาเป็นคนแล้วสุขภาพไม่ดี อันนี้เป็นวิบากจากกรรมที่ทำในแง่ “ปาณาติบาต” หรือว่า ต้องมาผิดหวังในเรื่องของความรัก ก็เพราะว่า.. เป็นวิบากของการผิดศีลข้อ ๓ หรือว่าเกิดมายากจน หากินเท่าไหร่ มีเงินมาเป็นครั้งคราว ถูกเค้าโกงไป ถูกเค้าขโมยไป เนี่ยนะ เป็นวิบากจากข้อ “อทินนาทาน” เป็นคนมาแล้ว แต่ก็ภาวนาทีไรเนี่ยนะ ไม่รู้สึกตัวเลย เหม่อ.. หรือไม่ก็หลับไปเลย หรือว่ามานั่งแล้วก็มึนๆ ฟังอะไรไม่รู้เรื่อง แต่พอหลวงพ่อแสดงธรรมเสร็จ หรือว่าครูบาอาจารย์แสดงธรรมเสร็จ.. ตื่น!! อันนี้น่ามาจากวิบาก จากที่ไปเสพสิ่งมึนเมาในอดีตมา เรียกว่า ไม่ใช่ว่ามาเกิดในสุคติแล้ว วิบากที่ไม่ดีจะไม่ตามมาให้ผล …ไม่ใช่อย่างนั้น วิบากที่ไม่ดีก็ยังให้ผลอยู่ ก็เป็นเหตุให้ต้องระวังนั่นเอง! พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล เรียบเรียงจากตอบปัญหาธรรม รายการธรรมะสว่างใจ ออกอากาศวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๕ ลิงค์รายการ https://youtu.be/HBcRYGDYZlg?t=5669 (นาทีที่ 1:34:29 – 1:39:29)

อ่านต่อ