#นิมฺมโลตอบโจทย์ ๒๐๕ #สมาทานศีลแปดฟังเพลงบรรเลงได้มั้ย? ?? #ถาม : สมาทานศีลแปด สามารถฟังเพลงคลาสิคแบบเพลงบรรเลงฟังสบายๆ ได้หรือไม่? #ตอบ : เพลงบรรเลงก็คือเพลงนั้นแหละ มันก็คืออยู่ในข้อที่ขับร้องประโคมดนตรี ถึงแม้จะไม่มีเนื้อร้อง มันก็คือการประโคมดนตรี เป็นการฟังเพลงบรรเลงนี่นะ ถ้าเราจะถึอให้บริสุทธิ์ละก็อย่าไปฟัง ไม่จำเป็นจะต้องอาศัยเสียงมากล่อมในช่วงที่ถือศีลแปด ถือเนกขัมมะ ก็ต้องให้บริสุทธิ์ ไม่ต้องมีเสียงเพลงบรรเลงเราก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ เอาไว้ลาศีลแล้วค่อยไปฟัง แผ่นก็คงยังอยู่ ไม่เป็นไรหรอก เอาไว้ไปเปิดฟังตอนที่ลาศีลแล้วดีกว่า เพื่อให้การรักษาศีลของเราบริสุทธิ์ แล้วก็ไม่ถูกตำหนิจากเพื่อนนักปฏิบัติด้วยกัน หรือไม่ถูกตำหนิจากครูบาอาจารย์ จริงๆ ก็คือว่าไม่ควรฟัง มันผิดศีลในข้อที่ ๗ “นัจจะ,คีตะ,วาทิตะ,วิสูกะทัสสะนาฯ” “นัจจะ” คือ การเต้นรำ ฟ้อนรำ “ทัสสะนา” ก็คือ ดูการละเล่น “วิสูกะ” แปลว่า เป็นข้าศึกของใจ “คีตะ” ก็คือ การขับร้อง “วาทิตะ” ก็คือ การประโคมดนตรี ประมาณนี้ รวมแล้วก็คือ การดูการละเล่น การเอนเตอร์เทน (Entertain) ทั้งหลาย คือความบันเทิงทั้งหลายนั่นเอง บันเทิงในที่นี้ก็คือว่า มีการขับร้อง ร้องรำทำเพลง ดูการละเล่น สมัยก่อนก็จะเป็นการละเล่นบนเวที เดี๋ยวนี้อยู่ในที่จอโทรทัศน์ จอโทรศัพท์ ถ้าดู ก็นับว่าเป็นการดูการเล่นด้วยกันหมดเลย ถ้าเราไปถือเนกขัมมะ เราก็ควรจะศึกษาข้อ ๗ นี้แหละ ซึ่งมันเป็นข้อที่ยาวมาก แล้วก็เป็นข้อที่คนมักจะไม่ค่อยเข้าใจ อาจจะเป็นเพราะมันยาวก็ได้ มีรายละเอียดเยอะ เช่นว่า การแต่งหน้าทาปากนี่นะ ไม่ควรจะไปแต่งหน้าทาปาก เว้นไว้แต่ปากแตก คือหน้าหนาวปากแห้ง ก็ใช้ลิปมันอย่างนี้ได้ ใช้เป็นยาเพื่อรักษาอาการป่วย หน้าแตกหน้าแห้งอย่างนี้นะ อาจจะลงโลชั่นได้อยู่ เพื่อที่จะรักษาผิวหรือรักษาร่างกายให้มันหายจากโรค บางคนเป็นผื่น ก็อาจจะต้องโรยแป้ง แต่ถ้าเวลาปกติ ไม่ได้ป่วยอะไร ไม่มีผื่นคันอะไรจะมาผลัดหน้าทาแป้งก็จะผิดข้อนี้ การร้องรำทำเพลง.. แม้แต่ผิวปาก ก็ไม่ควร บางคนไม่เข้าใจนึกว่า “อ่ะ! ผิวปากนี่ ก็ไม่ใช่เป็นการร้องเพลง!” แต่เป็นการประโคมดนตรีอย่างหนึ่งแล้ว เป็นการผิวปากบรรเลงเพลง.. อย่างนี้นะ ตอนบวชใหม่ๆ อาตมาไม่ค่อยเข้าใจตัวนี้เหมือนกัน ไปธุดงค์ในป่า แล้วก็ผิวปากเรียกเพื่อนพระด้วยกัน มีเณรมาเตือน “หลวงพี่ นี่ผิวปากไม่ได้นะ! ผิวปากก็ผิด” เป็นเณรก็จริง แต่มีประสบการณ์มากกว่า เราก็ต้องมาเรียน ทำความเข้าใจใหม่ว่า “อ้อ! ผิวปากก็ไม่ได้ด้วย!” กรณีนี้ก็นับว่า มีเณรเป็นอาจารย์ ก็ต้องค่อยๆ เรียนรู้จากสิ่งที่ผิดนั่นแหละ เราพลาดอะไรไป แล้วถ้ามีคนมาตักเตือน เราก็ตรวจสอบแล้วจดจำ และเตือนตนว่าเราจะไม่ทำในสิ่งที่เคยผิดพลาดไป ถ้ามีคนเตือน เราก็ควรจะน้อมรับ รับฟังด้วยความเคารพในคำตักเตือนอันนั้น แม้ผู้เตือนนั้นจะเป็นผู้น้อย แล้วก็ระวังไม่ทำในสิ่งที่ผิดพลาดนั้นอีก พระอาจารย์กฤช นิมฺมโล เรียบเรียงจากการตอบปัญหาธรรม ในรายการ”ธรรมะสว่างใจ” เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๒ ลิงค์วีดีโอ https://youtu.be/clyuwC-c_JU (นาทีที่ 43:26 – 49:20) Shortlink: November 27, 2019นิมฺมโลตอบโจทย์admin อ่านต่อFacebookTwitterLine